ล่าแทบพลิกแผ่นดิน โจรปล้นชิงรถ 4 คัน ยิงเจ้าของอู่ดับ 1 ศพ ยังหนีลอยนวล

ล่าแทบพลิกแผ่นดิน โจรปล้นชิงรถ 4 คัน ยิงเจ้าของอู่ดับ 1 ศพ ยังหนีลอยนวล

ล่าแทบพลิกแผ่นดิน โจรปล้นชิงรถ 4 คัน ยิงเจ้าของอู่ดับ 1 ศพ ยังหนีลอยนวล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ สภ.เมืองระนอง จ.ระนอง รับแจ้งเหตุคนร้าย บุกขโมยรถ แล้วใช้อาวุธปืนยิงเจ้าของรถได้รับบาดเจ็บสาหัส หลบหนีมุ่งหน้าไปทางวัดหาดส้มแป้น ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง

หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแจ้งตำรวจประจำตู้ยาม ตั้งด่านสกัดจับ เมื่อไปถึงพบผู้บาดเจ็บคือ นายจำนงค์ หรือ ช่างแมว อายุ 42 ปี ญาตินำตัวส่ง รพ.ระนองไปก่อนแล้ว มีบาดแผลถูกยิงเข้ายิงเข้าอกขวา 1 นัด ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมา นายอนุวัฒน์ บุญเฉลียว ผู้ช่วยกำนัน ต.บางพระเหนือ เข้าให้ข้อมูลตำรวจว่า คนร้ายเป็นชายอายุ 30-35 ปี สวมเสื้อโปโลสีดำ สวมกางเกงยีนส์ มีกระเป๋าหนังสะพายคาดหน้าอก ก่อนเกิดเหตุขับรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บง 8878 ระนอง มาจอดทิ้งไว้ภายในซอยหมู่บ้าน แล้วมาขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวเมียนมา ซึ่งเจ้าของรถไล่ตามทันแล้วมาแจ้งตนกับกำนันไปตรวจสอบ ก่อนถูกคนร้ายชักอาวุธปืนยิงใส่ แต่กระสุนพลาด ทำให้แต่ละคนพากันหลบไปคนละทิศคนละทาง

จากนั้น คนร้ายชิงเอารถจักรยานยนต์ของกำนันหลบหนีกลับไปที่รถยนต์กระบะโตโยต้า ขับหนีต่อไปที่บ้านช่างแมว แล้วใช้อาวุธปืนยิงช่างแมวชิงรถกระบะมิตซูบิชิหลบหนีไปได้

ช่างแมว และรถที่ถูกปล้นชิงไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามเจ้าของรถดังกล่าวมาสอบถามว่า ทำไมรถถึงถูกคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้ จนได้รับคำตอบว่าเจ้าของรถเดินทางไปต่างจังหวัด แต่รถคันนี้ได้นำไปใช้ที่สวนที่ อ.ละอุ่น และกำลังเดินทางกลับมาระนอง โดยยังไม่ทราบว่าทำไมหรือใครนำรถออกมาทิ้งไว้ที่หน้าอู่ ใน อ.เมืองระนอง

ต่อมา ตำรวจไม่สามารถตรวจสอบภายในรถยนต์ได้ จึงประสานไปยังชุดอีโอดี ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ว่ามีวัตถุระเบิดหรือไม่ เพราะเกรงจะเกิดเหตุระเบิดสังหาร หรือคาร์บอมบ์ เหมือนกับสองสามวันที่ผ่านมา จนทำให้ทหารเสียชีวิตไป 1 ราย พร้อมมีการกั้นพื้นที่เกิดเหตุ รอบรถยนต์ ก่อนห้ามบุคคลเข้ามาในรัศมี 50 เมตร และได้มีการสั่งปิดถนนเพชรเกษมทันที โดยรถยนต์จอดติดกันยาวร่วม 1 กม.

ในเวลาต่อ เจ้าหน้าที่อีโอดีไปตรวจพบวัตถุที่น่าสงสัย ซึ่งไปติดและอุดปิดอยู่ บริเวณเหล็กคันล็อกพวงมาลัย เป็นสิ่งที่ผิดปกติไม่สมควรมาอยู่ตรงจุดนี้ เป็นห่อพลาสติกใสมีกระดาษสีขาวห่อภายในอีกชั้นหนึ่ง โดยวางปิดอยู่เหนือคันเหยียบเบรกรถด้านใน ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบด้วยวิธีการดึงอีกครั้ง

โดยใช้ห่วงตะขอเข้าไปเกี่ยวที่ถุงพลาสติก และใช้เชือกผูกโยงมาอีกครั้ง พร้อมสั่งปิดกั้นการจราจรเป็นรอบที่สอง เมื่อลากเชือกยาวมาร่วม 50 เมตร เมื่อเข้าที่กำบัง และได้มีการสั่งดึง จนวัตถุนั้นหลุดแล้วไม่มีเสียงหรือเหตุอะไรเกิดขึ้น จนท.อีโอดีจึงเข้าทำการตรวจสอบอีกครั้ง เมื่อพื้นที่เคลียร์ จึงให้ทางร้อยเวรเข้าตรวจสอบ พบวัตถุที่เป็นสิ่งผิดปกติที่ตรวจสอบครั้งที่สอง พบว่าเป็นห่อซองกระดาษทิชชู แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมมันถึงไปอยู่ในตำแหน่งที่มันไม่ควรจะอยู่

ทางร้อยเวรพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ได้ทำการล็อครถ และปิดพื้นที่บริเวณจุดที่รถจอดในรัศมี 5 เมตร เพื่อให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรายละเอียดและตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงอีกครั้งในวันนี้ (9 ต.ค.)

ส่วนการติดตามตัวคนร้ายได้มีการแจ้งทุกพื้นที่ สถานีตำรวจในจังหวัดระนอง และจังหวัดใกล้เคียงให้ทราบถึงพฤติกรรมของคนร้าย ที่มีการสับเปลี่ยนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในการหลบหนีตลอดเวลา พร้อมมีอาวุธปืน 9 มม.พร้อมกระสุนที่สามารถสังหารทุกคนได้ หากมีผู้ใดขัดขืนหรือเข้าทำการขัดขวางหรือจับกุม

พร้อมฝากสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ถึงพฤติกรรมและรูปพรรณของคนร้ายรายนี้ หากใครถูกขโมยรถยนต์หรือจี้ชิงรถ อย่าขัดขืน แล้วให้รีบแจ้ง 191 เหตุด่วนเหตุร้าย ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook