ตำรวจเลยตกเป็นเหยื่อ "ผู้การ" ได้เฮ จ่อได้รับคืนเงินถ้วนหน้า

ตำรวจเลยตกเป็นเหยื่อ "ผู้การ" ได้เฮ จ่อได้รับคืนเงินถ้วนหน้า

ตำรวจเลยตกเป็นเหยื่อ "ผู้การ" ได้เฮ จ่อได้รับคืนเงินถ้วนหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเลยเตรียมเฮ "บิ๊กหม่อง-บิ๊กโจ๊ก" คืนเงินเหยื่อ "ผู้การสุทิพย์" สัปดาห์หน้าหลังรับมอบเงินสดคืนแล้ว 23 ล้านบาท

พล.ต.ท.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการ ผบช.สตม. ประชุมร่วมชุดสืบสวนสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี

ขณะเดียวกันได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีได้นำเงินสดมามอบให้กับ ผบช.ภ.4 และ รักษาการ ผบช.สตม. วันนี้ รวม 10,520,000 บาท โดยพบว่าเงินดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่มาจากข้าราชการตำรวจที่ถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ก่อนหน้านี้

เนื่องจากมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีและมีการโอนเงินของตำรวจไปในบัญชีเงินฝาก โดยมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทยและพนักงานสอบสวนในคดีมาทำการตรวจนับเงินสดในจำนนดังกล่าวทั้งหมด ก่อนเก็บรวบรวมเป็นของกลางในคดีต่อไป

พล.ต.ท.สุระชัย กล่าวว่า คณะทำงานได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบความผิดปกติของเงินจากตำรวจภูธรจังหวัดเลยพัวพันไปหลายคน ซึ่งวันนี้สามารถนำเงินสดกลับคืนมาได้แล้ว 23,616,000 บาท รวมทั้งการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินตามเส้นทางการเงินได้อีกจำนวนมาก ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าแล้วรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการที่จะคืนให้กับตำรวจได้

แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมร่วมกันของคณะทำงานตามขั้นตอนของจึงจะสรุปได้ว่าจะสามารถคืนเงินได้ย่างไร แต่ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะสามารถคืนเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 196 นายได้ โดยจะคืนได้เฉพาะบางส่วนและบางคนก่อนเท่านั้น แต่ยืนยันว่าทุกคนจะได้รับเงินคืน

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการ ผบช.สตม.กล่าวว่า วันนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้มีการลงพื้นที่ ที่ จ.นนทบุรี และ กรุงเทพฯ เพื่อทำการยึดอายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีต รอง ผบช.สกพ.(รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล) ซึ่งสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้รวมหลายรายการ ทั้งหมดจะตกมาเป็นของกลางในคดีที่จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด

ซึ่งคดีความดังกล่าวนี้นั้นมีความคืบหน้าอย่างมาก พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.จะมาประชุมเพื่อตรวจสำนวนการสอบสวนรอบสุดท้ายในวันที่ 10 ตุลาคม เพราะคณะทำงานทั้งสืบสวนและสอบสวนนั้นเราทำงานกันทุกวัน วันนี้ในการประชุมก็จะมีการสรุปข้อมูลและลำดับเหตุการณ์ต่างๆ อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีดังกล่าวคือ น.ส.ธิญาดา ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนั้นขณะนี้ยังคงหลบหนี ได้มีการสั่งการไปยัง ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งการจัดส่งกำลังตำรวจ ตม. ตรวจสอบในช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศของผู้ต้องหารายสำคัญแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook