อริสมันต์ เปิดอัลบั้ม รักในโฟนอิน!!

อริสมันต์ เปิดอัลบั้ม รักในโฟนอิน!!

อริสมันต์ เปิดอัลบั้ม รักในโฟนอิน!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสื้อแดงเปิดตารางเดินสายจัดคอนเสิร์ต ตจว. "อริสมันต์" เปิดอัลบั้ม"รักในโฟนอิน" "สุริยะใส" เผยงานประชุมพันธมิตร 24-25 พ.ค.ลงตัวแล้ว คาดคนร่วมงานนับแสน เตรียมขอมติมวลชนทั้งประเทศเรื่องตั้งพรรคการเมือง แกนนำ พธม.รุ่น1-2 แจงชาวขอนแก่นตั้งพรรคการเมือ เสื้อเหลืองมหาชัย จัดเสวนาเวทีประชาธิปไตยกร่อย นายกฯวอนผู้นำท้องถิ่นสร้างความเข้าใจประชาชน

เมื่อเวลา 12.00 น .17 พ.ค. ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียลลาดพร้าว นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำคนเสื้อเดง นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส. สิงห์บุรี พรรคไทยรักไทย พร้อมกับศิลปินที่เคยขึ้นเวทีคนเสื้อแดงร่วมแถลงข่าวเปิดตัว อัลบั้มเพลง "รักในโฟนอิน" ของนายอริสมันต์

นายอริสมันต์ กล่าวว่า รายได้จากการจำหน่ายอัลบั้มจะนำไปมอบให้กองทุนพัฒนาประชาธิปไตยเพื่อใช้เป็นทุนในการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย และเป็นกองทุนช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ถูกตำรวจทหารทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมช่วงวันสงกรานต์ แต่ทั้งนี้การต่อสู้ยังไม่จบ หลายคนยังไม่รับรู้ข้อเท็จจริง แกนนำนปช . ทั้ง 3 คน คือนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และตนพร้อมกับเพื่อนศิลปินจะเดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตที่ อ.พล จ .ขอนแก่น วันที่ 22 พ.ค. ต่อด้วย จ.อุดรธานี วันที่ 23 พ.ค. ร้อยเอ็ด 24 พ.ค. และ มหาสารคาม 25 พ.ค.

"แต่ละสถานที่จะจัดนิทรรศการ ใครทำร้ายประเทศชาติ ใครทำร้ายประชชน ใครสร้างชาติ ใครปกป้องประชาชน พร้อมกับเปิดรับสมาชิกเสื้อแดงจากทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด เพื่อจะนำรายชื่อดังกล่าวยื่นต่อองค์กรระหว่างประเทศ ให้ทราบว่าคนเสื้อแดงต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่อำมาตย์ยัดเยียดให้พวกเรา" นายอริสมันต์ กล่าวและว่า

นอกจากจะมีการแสดงคนเสิร์ตแล้วยังจะนำซีดีไปแจกจ่ายประชาชน เปิดโปงว่า สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าในการปราบปรามผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับประชาชน ซึ่งในซีดีที่แจกจ่ายประชาชนจะได้รู้ว่าใครโกหก วันนี้นายอภิสิทธิ์ ได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 เม . ย . ในการใช้กำลังปราบปรามประชาชน นอกจากนี้ในวันที่ 23 พ . ค . จะมีการจัดงานระดมทุน ทำหนังสือพิมพ์คนเสื้อแดง( Red News ) เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้คนรักประชาธิปไตยรับรู้ข้อเท็จจริง เพราะวันนี้การเมืองกำลังนำพาประชาธิปไตยถอยหลังลงคลอง

นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีตส . ส . สิงห์บุรี พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เราไม่ได้เดินทางไปจัดคอนเสิร์ตเฉพาะพื้นที่อีสานเท่านั้น แต่จะไปจัดในภาคใต้ด้วยเพราะมีพี่น้องเสื้อแดงอยู่หลายจังหวัด เป้าหมายของเราคือจะจัดคอนเสิร์ตให้ได้ 10 สัปดาห์ พร้อมกับเป้าหมายเปิดรับสมาชิกเสื้อแดง 10 ล้านคน

ภายหลังการแถลงข่าว นายอริสมันต์ ได้แจกซีดีอัลบั้ม รักในโฟนอิน ซึ่งมีทั้งหมด 12 เพลง โดยเพลงรักในโฟนอิน มีเนื้อหากล่าวถึงพ .ต.ท .ทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางกลับประเทศไม่ได้ จึงใช้โทรศัพท์โฟนอินมาหาประชาชน นอกจากนี้ยังมี วีซีดีหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง ความจริงวันที่ 13 เมษายน 2552 สงกรานต์เลือด ความยาว 43 นาที เป็นการรวบรวมภาพข่าวจากสำนักข่าวต่างในประเทศและต่างประเทศ

เนื้อหา ลำดับความเป็นมาของกลุ่มคนเสื้อแดง การตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์อันไม่ชอบธรรม พร้อมกับอธิบายตลอดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่น่าสนใจในเหตุการณ์ในการชุมนุมขัดขวางการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยานั้น เป็นการประมวลภาพและบอกเล่าเรื่องว่า กลุ่มคนเสื้อน้ำเงินเป็นผู้ก่อความวุ่นวายก่อน แต่ไม่มีภาพเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุก โรงแรมรอยัล คลิฟบีช พัทยา

ส่วนเหตุการณ์การสลายการชุมนุมตั้งแต่คืนวันที่ 12 เม . ย . ได้มีการระบุเสียงลงไปอีกว่า นายทหารระดับสูงบางคนสั่งการให้ทหารยิงปืนใส่ประชาชน แต่ภาพที่นำมาเปิดเผยเป็นภาพเคลื่อนไหวทหารยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และกล่าวอ้างว่าในการสลายการชุมนุมมีผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมกับนำภาพคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะมาเปิดทำให้เข้าใจว่าเป็นผู้เสียชีวิต มีแต่คำบอกเล่าจากชายคนหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นผู้รอดชีวิตที่โดดหนีลงมาจากรถขณะทหารกำลังขนศพไปทิ้ง พร้อมกับกล่าวหาสื่อมวลชนนำเสนอไม่เป็นไปตามความเป็นจริง ส่วนวันที่ 14 เม . ย . ในวันแกนนำเสื้อแดงประกาศสลายการชุมนุมนั้นเพื่อถอยเนื่องจากเกรงว่าทหารจะใช้กำลังล้อมปราบ

"สุริยะใส"อ้างตั้งพรรคใหม่รอโหวตที่ประชุมใหญ่ พธม.

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเตรียมการจัดงานในวันที่ 24-25 พฤาภาคม 2552 คณะทำงานในข้อสรุปหลักๆ และเสนอให้แกนนำพิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤาภาคม เป็นการประชุมสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะจัดที่ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น โดยมีการเชิญแกนนำและผู้ประสานงานทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 3 พันคนเข้าร่วมประชุมโดยมีวาระสำคัญคือ กหารวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ท่าทีต่อการรื้อรัฐธรรมนูญและการนิรโทษกรรม แนวทางการสร้างความเข้มแข็งของพันธมิตรฯ แนวทางการผลักดันเรื่องการเมืองใหม่ และความเป็นไปได้ในการสร้างพรรคการเมืองใหม่

ส่วนวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม เป็นงานรำลึก 1 ปีของการชุมนุมยืดเยื้อ 193 วัน ซึ่งเราชุมนุมวันแรกคือวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 โดยจะจัดที่สนามกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตั้งแต่เวลา 15.00 - 23.00 น ในงานจะมีการจะริ้วขบวนเพื่อสะท้อนปัญหาสังคมการเมืองไทย โดยมีขบวนจากภูมิภาคต่างและองค์กรแนวร่วมมากกว่า 10 ขบวน และร่วมกันประกาศเจตนารมณ์สร้างการเมืองใหม่ มีพิธีรำลึกสุดดีวีรชนและผู้บาดเจ็บจากการเข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ ด้วย คาดว่างานนี้จะมีคนเข้าร่วมกว่าแสนคน

นายสุริยะใส กล่าวว่า สำหรับกระแสการตั้งพรรคการเมืองนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แกนนำพยายามจะไม่ออกความเห็นในช่วงก่อนการประชุมเพราะอาจถูกมองว่าเป็นการชี้นำการตัดสินใจ และแม้แกนนำแต่ละท่านจะมีความเห็นต่อเรื่องนี้แต่ก็ต้องการฟังความเห็นจากมวลชนอย่างแท้จริงเพราะเป็นหัวใจของการเมืองแบบใหม่ ส่วนมติจากออกมาทางใดก็ให้ถือตามนั้น โดยในวันประชุมจะมีการออกแบบสอบถามแจกจ่ายผู้เข้าร่วมงานทุกคนเพื่อประมวลความเห็นอย่างเป็นทางการอีกด้วย

แกนนำ พธม.รุ่น1-2 แจงชาวขอนแก่นตั้งพรรคการเมือง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 พ.ค. เครือข่ายพันธมิตร ขอนแก่น 52 จากหลายภาคส่วนและหลายอำเภอ ร่วมกับ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ ส.ร.ส. ขอนแก่น พร้อมด้วยสมาชิก ส.ร.ส.ขอนแก่น จัดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์กับสังคม ภายใต้เจตนารมณ์ที่ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วม และเดินทางสู่การเมืองใหม่ ซึ่งเป็นเป้าหมายทพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องการ โดยยึดหลักในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ภายใต้คำขวัญ "โปร่งใส สมัครใจ ยึดคุณธรรม มีเสรีภาพ" ที่ห้องประชุมองค์กรแพทย์ ชั้น 3 อาคารเรียนรวม คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน

โดยภายในงานโดยในงานได้เชิญวิทยากรจากส่วนกลาง ประกอบด้วยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายศิริชัย ไม้งาม และนางมาลีรัตน์ แก้วก่า ร่วมให้ความรู้กับผู้ร่วมฟังในการสัมมนา โดยมีเนื้อหาในเรื่องของผู้ใช้แรงงาน การดำรงชีวิตท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ และความรู้เรื่องการสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เข้าร่วมงาน

นพ.เฉลิมชัย อภิญญานุรักษ์ คณะทำงานพันธมิตรขอนแก่น 52 กล่าวว่า ในการจัดงานในครั้งนี้คณะทำงานพันธมิตรขอนแก่น 52 จะยึดหลักในการทำงาน 4 ประการอย่างมั่นคง โดยคณะทำงานจะไม่มีแกนนำ จะมีแต่ผู้ที่เสียสละร่วมงานจากทุกภาคส่วน มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และพร้อมที่จะรับผิดชอบในภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย โดยทุกกิจกรรมที่ดำเนินการจะต้องผ่านมติของที่ประชุมใหญ่ประกอบด้วย ผู้ให้การสนับสนุน นักวิชาการ ผู้แทนจากทุกอำเภอ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากทุกสาขาอาชีพ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีความเชื่อมั่นและพร้อมที่จะต่อสู้เดินไปสู่จุดหมายร่วมกัน เพื่ออนาคตของประเทศ

ทั้งนี้ ยังเป็นการจัดงาน 193 วัน รำลึก 1 ปีของวันเริ่มต้นชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 2535 ที่ครบรอบ 17 ปี เพื่อให้ประชาชนได้ระลึกถึงวีรชนผู้กล้าเสียสละเลือดเนื้อในเหตุการณ์ครั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดสัมมนาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการหารือกับพันธมิตร จ.ขอนแก่น ถึงเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ โดยในวันที่ 24 พ.ค. นี้ จะมีการเสวนาในการต่อสู้และทิศทางการตั้งพรรคการเมือง เพราะที่ผ่านมาเราต่อสู้ และถูกประณามจากคนบางกลุ่มมาตลอด โดยให้แกนนำพันธมิตรฯจากทั่วประเทศ เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อหารือร่วมกันว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เพื่อหาข้อสรุป

นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากระแสเรื่องพรรคการเมืองใหม่มาจากข้างล่าง มาจากมวลชนของพันธมิตรฯ ก่อนจะมีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการในที่ประชุมแกนนำด้วยซ้ำ พอกระแสสูงและเห็นว่าเป็นโจทย์ที่ต้องหาข้อยุติในพันธมิตรฯ แกนนำจึงเอาเรื่องตั้งพรรคเข้าหารือในที่ปะชุมในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี่เอง ไม่ได้มีการตั้งธงอะไรไว้ก่อนทั้งสิ้น และในช่วงชุมนุมยืดเยื้อ 193 วันแกนนำก็ไม่เคยพูดหรือปราศรัยเรื่องการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ แต่อย่างใด แต่ทั้งหมดถือว่าเป็นพัฒนาการและความพยายามจะยกระดับการต่อสู้เพื่อการสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งมีหลายแนวทางเรื่องการตั้งพรรคการเมืองก็เป็นเพียงแนวทางหนึ่งเท่านั้น

เสื้อเหลืองมหาชัย จัดเสวนาเวทีประชาธิปไตยกร่อย

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 พ.ค.ที่ภัตตาคารนิวรสทิพย์ ริมแยกต่างระดับพระราม 2 อ.เมืองสมุทรสาคร" บรรดากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ราว 300 คน ร่วมกันเปิดเวทีเสวนา ประชาธิปไตย โดยมีนายสุดใจ ไม้สังข์ หรือเสี่ยหลง (เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง) และพล.ต.ต.ศิริ ทองมี ข้าราชการเกษียณ (อดีตผบก.ตำรวจ) ฐานะตัวแทนพร้อมคณะร่วมจัดเสวนาในครั้งนี้ ขณะที่แกนนำกลุ่ใหญ่มีนายประพันธ์ คูณมี ในฐานะตัวแทนลงพื้นที่ ทั้งนี้สมาชิก พธม.ในที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดก่อนจะร่วมกันลงมติ กรอกความเห็นกรณีตั้งพรรคการเมืองตามกระแสข่าว ซึ่งปรากฏว่า ผลเสียงส่วนใหญ่กว่า 80 % เห็นควรให้ตั้งพรรคการเมือง

สำหรับเสียงโหวตมติในที่ประชุมมีเห็นต่างและไม่สอดคล้องนักหลายประเด็น อาทิ 1.หลังเป็นพรรคการเมืองพลังอาจลดลง 2.พรรคฯสามารถเป็นปากเสียง เข้าในสภามีน้ำหนักกว่า และแย้งกับพรรคที่สนิทเป็นต้น อย่างไรก็ตาม ความเห็นของสมาชิกนี้ จะนำไปรวมเสนอรวมถกเวทีใหญ่วันที่ 25 พ.ค.นี้ ซึ่งสรุปได้ว่าสมุทรสาครเสียงเห็นตั้งพรรคฯ

"ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับการประชุมในครั้งนี้กล่าวกันว่าน่าสังเกต สภาพบางตา ซึ่งคาดด้วยว่าผู้ที่ไม่มา น่าจะไม่เห็นต่าง ในการตั้งพรรคของ พธม. นอกจากนี้ที่น่าสังเกตไม่มีบรรดาหัวคะแนนนักการเมืองมาสังเกตุการณ์ให้เห็น"

ด้าน พ.ต.อ.วิเลข ศรีนิเวชน์ (อดีต ผกก.สภ.บ้านแพ้ว) 1ในแฟนพันธ์แท้ พธม. (อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตอำเภอบ้านแพ้ว พรรคปชป.) แต่สอบตก กล่าวว่า ยินดีสนับสนุน พธม.ตั้งพรรค อดีตเคยลงชิง ส.ส.ประจำ ทั้งนี้ว่าหากเป็นพรรค จะมีน้ำหนักและเสียงเข้าสภาฯ และผลักดันได้หลายอย่าง เช่น นโยบาย หรือเรื่อง ทุจริตต่างๆ ขณะเดียวกันสมัยนั้น การเลือกตั้งได้เปลี่ยนเป็นเลือกคละกันจังหวัดทั้งพวง(3คน) ตนจึงถอยออกมา อย่างไรก็ตาม อยากให้ พธม.ตั้งพรรคมากกว่า และยังสนับสนุนตลอดไป เป็นภาคประชาชนก็แข็งดี อย่างไรก็ตาม พร้อมเปิดช่องให้คนรุ่นใหม่เข้ามาโดยไม่ยึดติด"

นายกฯวอนผู้นำท้องถิ่นสร้างความเข้าใจประชาชน

เมื่อเวลา 15.40 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปิดการสัมมนาที่รัฐสภา เรื่อง " การเสริมสร้าง และเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำทางศาสนา ในจังหวัดอุบลราชธานี ระนอง นครนายก และยะลา จำนวนทั้งสิ้น 702 ซึ่ง เป็นรุ่นที่ 2 ของโครงการ

นายกรัฐมนตรี พยายามเน้นย้ำให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนา ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับปัญหาและวิกฤตการเมืองที่ผ่านมา รวมถึงปัญหาในการจัดงบประมาณที่มีข้อจำกัดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นยอมรับว่าส่วนหนึ่งมาจากฎหมายและการเมือง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหา เพราะในทางการเมืองย่อมมีการแข่งขันกัน แต่อยากให้อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช้วิธีรุนแรง หรือขัดกฎหมาย หากทุกฝ่ายยึดหลักนี้ได้เชื่อว่าบ้านเมืองผ่านวิกฤติไปได้ อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ใดมีปัญหาหรือข้อเสนอแนะก็ขอความกรุณาส่งข้อมูลเข้ามาให้รัฐบาล

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับค่าตอบแทนของผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านนั้นในเดือนตุลาคมนี้ จะมีการเพิ่มค่าตอบแทบครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งจะเพิ่มขึ้นในปีถัดไป ส่วนค่าตอบแทนของผู้นำศาสนานั้น ตนรับปากจะไปพิจารณาให้เกิดความชัดเจนขึ้น เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการจัดงบประมาณเสี่ยงภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วม 1 พันล้านบาท สำหรับกฎหมายเกี่ยวกับเทศบาล ตนได้มอบหมายให้วิปทั้งสองฝ่ายไปร่วมกันพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งรัฐบาลไม่ขัดข้องและพร้อมที่จะเสนอเข้าสู่การประชุมของสภา ส่วนประเด็นข้อเสนอการเลือกกำนันโดยตรงผ่านประชาชนในพื้นที่ ตนรับปากจะนำเรื่องนี้ไปปรารภในที่ประชุม ครม.วันอังคารที่จะถึงนี้ เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยที่จะต้องหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้รัฐบาลสนับสนุนแนวทางการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งตนรับเป็นประธานเอง โดยจะเร่งรัดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะมีตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง และวุฒิสภา ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ แต่ไม่อยากให้ใช้ความเคลือบแคลงสงสัยหรือไม่แน่ใจมาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเกลียดชัง จึงอยากให้ผู้นำท้องที่และท้องถิ่นได้ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชน ตนพร้อมทำงานให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกภาค ไม่เลือกปฏิบัติ แต่คงไม่ถูกใจทุกฝ่าย เพราะรัฐบาลก็มีข้อจำกัด ในเรื่องงบประมาณ ที่จัดเก็บงบประมาณไม่เข้าเป้า แต่รัฐบาลจะทำเต็มที่ในงบประมาณปี 2553 ด้วยการหารายได้เพิ่มจาการขึ้นภาษีเหล้าและบุหรี่ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ ส่วนการขึ้นภาษีน้ำมันรัฐบาลจะไปปรับลดจากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันแทน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook