ลืมได้ยังไง? ญาติร้องหมอลืมผ้าก๊อซไว้ในท้อง ต้องผ่าตัดซ้ำ คนไข้อาการทรุดเสียชีวิต

ลืมได้ยังไง? ญาติร้องหมอลืมผ้าก๊อซไว้ในท้อง ต้องผ่าตัดซ้ำ คนไข้อาการทรุดเสียชีวิต

ลืมได้ยังไง? ญาติร้องหมอลืมผ้าก๊อซไว้ในท้อง ต้องผ่าตัดซ้ำ คนไข้อาการทรุดเสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น กรณีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นผ่าตัดคนไข้ แล้วลืมผ้าก๊อซไว้ในท้อง ต้องผ่าตัดรอบที่สอง จนทำให้คนไข้เสียชีวิต

วันที่ 25 ก.ย. 61 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น นางบุญถม ลายภูเขียว เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นว่านายแอ๊ด พี่ชาย ได้เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในไตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จังหวัดขอนแก่น แต่แพทย์ที่ทำการรักษากลับลืมผ้าก๊อซไว้ในท้อง ต้องทำการผ่าตัดรอบที่สองทำให้พี่ชาย อาการทรุด และเสียชีวิตเมื่อวานที่ผ่านมา

นางบุญถม เล่าว่า พี่ชายของเธอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพยาบาลแห่งนี้ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในไต และแพทย์นัดเพื่อเข้ารับการผ่าตัด ในวันที่ 2 กันยายน 2561 และพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลอีก 5 วัน จนอาการดีขึ้น จึงให้พี่ชายกลับบ้านได้

กระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมา คนไข้มีอาการปวดท้องอย่างหนัก ญาติจึงพาไปที่โรงพยาบาลสีชมพู จ.ขอนแก่น เพื่อให้แพทย์ดูอาการ ปรากฏว่าพบว่ามีเศษผ้าก๊อซอยู่ในช่องท้อง จึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแห่งเดิมที่เคยผ่าตัด เพื่อทำการผ่าตัดเอาผ้าก๊อซออก และให้คนไข้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน

ซึ่งในขณะนั้นเองทางโรงพยาบาลได้ทำสัญญาให้เงินเยียวยาแก่คนไข้ เป็นหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความ ทำขึ้นที่โรงพยาบาล โดยไม่ได้ใส่ชื่อแพทย์ผู้ทำการรักษาลงในสัญญา

ซึ่งมีข้อความระบุว่าผู้ให้สัญญาตกลงช่วยเหลือเยียวยาค่าเสียหาย ในกรณีที่ผู้ให้สัญญาทำการผ่าตัดรักษาบกพร่องเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ต้องเข้าทำการรักษาพยาบาลอีกครั้งให้แก่ผู้รับสัญญา เป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท ซึ่งนางบุญถมบอกว่าเป็นเงินส่วนตัวของหมอ ซึ่งในขณะนั้นพี่ชายยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว

จากนั้นพี่ชายได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านนาน 1 เดือนหลังการผ่าตัดครั้งที่สอง ซึ่งนางบุญถม น้องสาว ยืนยันว่าพี่ชายไม่สามารถเดินได้ และอาการทรุดลงเรื่อยๆ หลังการผ่าตัดครั้งที่สอง

จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้ต้องมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมในวันนี้ โดยร้องค่าเสียหาย 200,000 บาท และค่าทำศพพี่ชายจากทางโรงพยาบาลอีก 100,000 บาท รวม 300,000 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook