แม่ร้องปวีณา ลูกสาว ม.2 ถูกเพื่อนบุกห้องน้ำขอมีเซ็กส์ แต่กลับโดนไล่ออก

แม่ร้องปวีณา ลูกสาว ม.2 ถูกเพื่อนบุกห้องน้ำขอมีเซ็กส์ แต่กลับโดนไล่ออก

แม่ร้องปวีณา ลูกสาว ม.2 ถูกเพื่อนบุกห้องน้ำขอมีเซ็กส์ แต่กลับโดนไล่ออก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อนชายบุกห้องน้ำหญิงประชิดตัวเด็กหญิง ม.2 ขอมีเซ็กส์ด้วย เคราะห์ดีเพื่อนมาช่วยทัน แม่ร้องปวีณาหลังโรงเรียนมีมติไล่ออก สั่งให้ลูกสาวเรียนได้ถึงแค่เทอมนี้ ทั้งที่ตกเป็นเหยื่อ

(25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ มูลนิธิ ปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี น.ส.เอ (นามสมมุติ) แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เข้าขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา หงสกุล หลังลูกสาวถูกกดดันไล่ออกจากโรงเรียน

แม่ของเด็กนักเรียนหญิงเล่าว่า สืบเนื่องจากเมื่อราวๆ 10 วันก่อนหน้านี้ มีเด็กนักเรียนชาย 2 คน แอบปีนเข้าไปในห้องน้ำผู้หญิงที่โรงเรียน ก่อนจะขอมีเพศสัมพันธ์กับลูกสาว โดยมีถุงยางอนามัยให้พร้อม อีกทั้งยังมีนักเรียนชายอีก 2 คน ซึ่งเป็นนักเรียนร่วมชั้นเดียวกัน เป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอไว้

แต่เคราะห์ดีที่มีกลุ่มเพื่อนนักเรียนหญิงเข้ามาเคาะประตูห้องน้ำและช่วยลูกสาวเอาไว้ได้ทัน หลังเกิดเหตุโรงเรียนได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมีคำสั่งไล่นักเรียนชายที่ก่อเหตุออก ส่วนลูกสาวของตนนั้น ทางโรงเรียนให้เรียนต่อได้ถึงสิ้นภาคเรียนนี้ หลังจากนั้นได้เชิญออกจากโรงเรียนเช่นกัน ตนจึงมาร้องขอความเป็นธรรม และให้กระทรวงศึกษาได้ทราบข้อมูลรายละเอียด

แม่ของเด็กนักเรียนหญิง ยังเล่าต่อว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เข้าแจ้งความแต่อย่างใด แต่มองว่าทำไมลูกสาวของตนต้องถูกกดดันให้ออกจากโรงเรียน ทั้งที่ตกเป็นเหยื่อผู้เสียหายจากกรณีนี้ เท่ากับว่าตัดโอกาสทางการศึกษาของเด็กไป โดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย จึงได้นำเรื่องนี้มาปรึกษากับมูลนิธิปวีณา

ทางด้าน นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการและแนะแนว ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางมาร่วมประชุมเพื่อหามาตรการและแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยห้องน้ำโรงเรียน

อีกทั้งยังกล่าวว่า หลังจากนี้จะลงพื้นที่ร่วมกับเขตการศึกษาเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย รวมทั้งจะได้เรียกตัวผู้ปกครองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมคาดว่าจะใช้เวลา 7 วันในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นและวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook