หนุ่มไฟฟ้าชะตาขาด-แม่และญาติร้องลั่นพบศพลูกชายถูกรถทัวร์ทับร่างเหลวแหลก

( 21 ก.ย. 61 )  พันตำรวจโทชัยวิชิต  มาตรเหลือง สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถทัวร์นำเที่ยวทับร่างของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่วิ่งตามกันมาจนเสียชีวิตคาที่

โดยเหตุเกิดที่ถนนแจ้งสนิทฝั่งขาเข้าตัวเมืองยโสธร บริเวณด้านหน้าปั๊มน้ำมันพีที ตรงข้ามกับห้างบิ๊กซี สาขายโสธร จึงได้ประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลยโสธรและเจ้าหน้าที่อาสาฯกู้ภัยเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พอไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนพบศพของ นายอภิญวัจน์  อายุ 34 ปี  ภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านสำราญ ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เป็นผู้ช่วยนายช่างไฟฟ้าของเทศบาลตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

สภาพศพนอนคว่ำร่างแหลกเหลว เลือดไหลนองพื้นถนน ใกล้กันพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีฟ้าขาวคันหมายเลขทะเบียน กยว-661ยโสธร ล้มคว่ำอยู่ และห่างออกไปอีกประมาณ 30 เมตร พบรถทัวร์นำเที่ยว 2 ชั้น คันหมายเลขทะเบียน 32-9386 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่เลนขวาสุด โดยมี นายภาคิน   อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านป่ายาง ตำบลเกษตรวิสัย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด คนขับรถทัวร์ ยืนรอให้การอยู่ในที่เกิดเหตุ 

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจที่เกิดเหตุ ได้ มีแม่ผู้เสียชีวิต และป้าผู้เสียชีวิต พอทราบ ว่าลูกชายและหลานชายเสียได้ร้องไห้โฮ ด้วยความเสียใจ ถึงกับเข่าอ่อนซึ่งบ้านผู้ตายกับที่เกิดเหตุห่างกันเพียงแค่ประมาณ 1 กม. 

ซึ่ง นายภาคิน  คนขับรถทัวร์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถทัวร์นำเที่ยวคันเกิดเหตุกลับจากพาเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองยโสธร ไปทัศนศึกษานอกสถานที่และกำลังจะเดินทางกลับโรงเรียน แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางตรงและเป็นถนน 4 ช่องจราจร โดยรถของตนขับอยู่ช่องขวาสุด และด้านหน้าช่องซ้ายสุดตนได้มองเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับตามหลังรถบรรทุกไม้ไผ่ไปอย่างกระชั้นชิด

และในระหว่างนั้นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้หักหลบรถบรรทุกไม้ไผ่จนเสียหลักล้มลงร่างผู้ตายกระเด็นเข้ามาในช่องขวาในระยะกระชั้นชิด ซึ่งตนก็มองไม่เห็นว่าร่างผู้ตายเข้ามาในช่องทางตนตอนไหนเพราะระยะเวลามันรวดเร็วมาก ตนได้ยินแต่เสียงดังกึกๆ จากใต้ท้องรถจนทำให้รถของตนลากเอาร่างของผู้ตายไปไกลกว่า 50 เมตร จึงสามารถเบรกรถเอาไว้ได้ท่ามกลางความตกใจของเด็กนักเรียนเต็มคันรถ พอหยุดรถได้ตนจึงลงไปดูและพบว่าได้ทับร่างคนเสียชีวิตแล้ว

จากการสอบถาม สิบโท ยุทธนา ยิ่งงาม ทหาร ร16.พัน 3 ค่ายบดินทรเดชา ต.เดิด บอกว่า ในช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเลิกงานพอดีจึงทำให้มีรถสัญจรไปมาจำนวนมาก และก่อนเกิดเหตุได้มีรถบรรทุกไม้ไผ่วิ่งนำหน้ารถจักรยานยนต์คันที่ผู้ตายขับขี่ในช่องทางซ้ายสุด แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุ รถบรรทุกไม้ไผ่จะเลี้ยวซ้ายเข้าปั๊มน้ำมัน จึงทำให้รถจักรยานยนต์ของผู้ตายพยายามหักหลบแต่ไม่มั่นใจว่ารถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้เฉี่ยวชนกับรถบรรทุกไม้ไผ่หรือไม่

แต่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้ล้มกลิ้งลงกับพื้น โดยร่างของผู้ตายกระเด็นเข้าไปในช่องขวาสุดซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถทัวร์นำเที่ยววิ่งตามหลังมาพอดี จึงทำให้ทับร่างของผู้ตายทันทีก่อนที่จะลากเอาร่างไปไกลกว่า 50 เมตร จนร่างแหลกเหลวเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพแล้วจึงได้มอบศพให้กลับทางญาติของผู้ตายนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป และจะได้นำตัวคนขับรถทัวร์นำเที่ยวคู่กรณีไปสอบสวนให้ละเอียดอีกครั้งก่อนจะได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป