ฟังอีกมุม คลิปดราม่า...เชียงใหม่อะไรก็ได้ พร้อมใจแห่ขับรถสวนเลน

อาสาสมัครจราจรแจงกรณีคลิปต่อคิวขับรถสวนเลน กลายเป็นประเด็นดราม่า ชี้ปกติจะมี ตร.จราจร มาทำหน้าที่ แต่ในคลิปติดภารกิจมาช้าไปไม่กี่นาที เป็นการอำนวยความสะดวกชั่วคราว ช่วงรับ-ส่งนักเรียนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวและคลิปวิดีโอเหตุการณ์ บริเวณถนนผ่านหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ผู้โพสต์กำลังขับรถไปตามเส้นทางปกติ แต่เมื่อถึงบริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน กลับมีรถยนต์ของผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลานจำนวนมาก แห่ต่อคิวขับสวนเลนตามกันเป็นแถว เพื่อจะเลี้ยวเข้าโรงเรียน

เป็นเหตุทำให้รถของผู้โพสต์และรถคันอื่นๆ ที่ขับตามมาไม่สามารถขับไปต่อได้ ทั้งที่ขับไปตามทางทางปกติและปฏิบัติตามกฎจราจร จากนั้นได้นำเรื่องราวและคลิปวิดีโอที่บันทึกได้จากกล้องหน้ารถโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ทำไมผู้คนถึงไม่เคารพกฎจราจร

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่า เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ถนนแก้วนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ที่เป็นอาสาสมัครผู้ช่วยตำรวจจราจร แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวตน ระบุว่า ตามปกติแล้วการจราจรบริเวณโรงเรียนช่วงเปิดเทอม จะค่อนข้างหนาแน่นและติดขัดในช่วงเช้าและช่วงเย็น

สำหรับกรณีในคลิปวิดีโอที่มีการนำไปโพสต์นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00 น. ซึ่งตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและจัดการจราจรให้ โดยจะมีการจัดช่องจราจรระบายรถที่มาตามถนนแก้วนวรัฐ ฝั่งขาออกเมืองเป็นช่วงๆ

แล้วเปิดให้รถผู้ปกครองที่มาตามถนนแก้วนวรัฐ ฝั่งขาเข้าเมือง สามารถขับสวนเลน เพื่อเลี้ยวเข้าโรงเรียนได้ แต่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ทำหน้าที่ประจำเกิดภารกิจฉุกเฉิน ทำให้มาอำนวยความสะดวกได้ช้ากว่าปกติ แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่บันทึกคลิปดังกล่าว เจ้าหน้าที่ก็มาทำหน้าที่และสามารถจัดการจราจรได้ตามปกติแล้ว

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวอยากทำความเข้าใจว่า ปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งอาสาสมัครผู้ช่วยตำรวจจราจร จะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและจัดการจราจรอย่างดีที่สุด แต่เหตุดังกล่าวเป็นกรณีเฉพาะหน้าเท่านั้น แม้จะมีการจราจรคับคั่งในช่วงดังกล่าวก็พยายามจัดการอำนวยความสะดวกการจราจรให้ดีที่สุด

และหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาเร่งด่วนไปแล้ว จะเห็นว่าการจราจรบนถนนบริเวณรอบๆ โรงเรียนก็จะคล่องตัวและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งย้ำว่าปัญหาการจราจรมีสาเหตุหลักมาจากผู้ขับขี่ ซึ่งหากทุกคนปฏิบัติตามกฎแล้ว ย่อมไม่เกิดปัญหาขึ้น