ผัวเมียดับสยอง-ซิ่ง จยย.ชนท้ายสิบล้อจอดข้างทาง ร่างไถลถูกรถเก๋งที่วิ่งมาเหยียบซ้ำ

( 4 ก.ย. 61 ) ร.ต.อ. พิสิฐ บุญมี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณ ม.2 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ถนนพหลโยธิ สายชัยนาท - มโนรมย์ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร
ที่เกิดเหตุพบ ศพนายประกฤต อายุ 27 ปี ชาว ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี ใส่เสื้อแขนยาวสีเขียว สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สภาพศพคอและกระดูกหักทั้งร่าง ไส้ทะลักออกมากองที่หน้าท้อง นอนจมกองเลือดอยู่ไกล้กับ รถพ่วง 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-0118 ชัยนาท บรรทุกรถตีดิน จอดเปิดไฟผ่าหมากอยู่ข้างทาง
ห่างไปประมาณ 15 เมตร พบศพนางสาวชญานี อายุ 27 ปี ชาว ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ใส่เสื้อลายดอกสีเหลือง เสื้อคลุมสีเทา สวมกางเกงขาสั้นสีดำ หน้าผากและคางเป็นแผลเปิด หน้าขาซ้ายฉีกขาด นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด
ห่างไปอีก15 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงินดำ ทะเบียน กพล 160 พลิกคว่ำอยู่ สภาพเฟรมแตก ไฟหน้าหลุด ด้านหน้าพังยับ ห่างไปอีก 10 เมตร พบรถนิสสัน อัลเมร่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1กษ 1758 กทม. จอดเปิดไฟผ่าหมากอยู่ข้างทาง สภาพรถกันชนหน้าหลุดไฟหน้าแตก
จากการสอบสวน ญาติผู้ตายทราบว่า ผู้ตายทั้งสองคนอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทั้งคู่พักอยู่ที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท กำลังเดินทางเข้าตัวเมืองเพื่อไปเที่ยวเล่น แต่มาเกิดเหตุดังกล่าวเสียก่อน ทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย จึงนำศพส่งมอบเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
นายธนัญชัย อายุ 33 ปี คนขับรถ 10 ล้อ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ได้บรรทุกรถตีดินมาจากจังหวัดสุโขทัย เพื่อที่จะนำไปส่งในพื้นที่ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ตอนนั้นได้จอดรถอยู่ในช่องซ้ายสุดและเปิดสัญญาณไฟผ่าหมากเพื่อเปิดดู GPS เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรชนเข้าที่ด้านท้ายรถดังสนั่น และเห็นว่า มีรถจักรยานยนต์ไถลไปกับถนนอย่างเร็ว
ด้านนายชวลิต อายุ 33 ปี คนขับรถเก๋ง เปิดเผยว่า ตนกับแฟน เพิ่งกลับมาจากกินหมูกระทะที่ อ.มโนรมย์ ระหว่างทางกลับบ้านในตัวเมืองชัยนาท มีฝนตกหนัก พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเห็นรถพ่วงจอดเปิดไฟผ่าหมากอยู่ข้างทาง จึงเบี่ยงมาที่เลนขวาสุด จากนั้นก็มีเสียงดังตึง แล้วก็เสียงครืด เหมือนลากอะไรมา จึงพยายามเบี่ยงมาจอดที่ข้างทาง และรีบลงมาดู
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถบรรทุก และคนขับรถเก๋ง รวมถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป