บุกจับ "ทนายจ๊อก" อดีตนักโทษจบนิติศาสตร์ หวนคืนวงการค้ายาบ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านสันติสุข ต.พิชัย อ.เมือ จ.ลำปาง ภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายจ๊อก (นามสมมุติ) หรือในวงการพ่อค้ายาบ้าเรียกชื่อว่า ทนายจ๊อก อายุ 37 ปี เป็นคน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นอดีตนักโทษในคดีครอบครองยาเสพติด(ยาบ้า) หลังจากพ้นโทษเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ยังหวนกลับมาสู่วงการค้ายาบ้าอีก
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่านายจ๊อก อยู่ภายในบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งเข้าห้องน้ำ กำลังเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นในมือซ้ายยังกำยาบ้าไว้แน่น ตรวจนับจำนวน 109 เม็ด บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส
จากการตรวจค้นภายในห้องนอนยังพบโทรศัพท์ จำนวน 10 เครื่อง และภายในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า ที่จอดอยู่ภายในบ้าน พบเสื้อสูตรปักสติกเกอร์และข้อความว่า สภาทนายความแขวนอยู่ จากการสอบสวนในเบื้องต้น อ้างว่า เป็นเสื้อที่คนรู้จักให้มาในครั้งที่เคยไปฝึกงานในสำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง ส่วนโทรศัพท์จำนวนหลายเครื่องได้มีลูกค้านำมาให้ซ่อม
นายจ๊อก รับสารภาพว่า เคยถูกจับดำเนินคดีครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย เมื่อปี 2552 ศาลพิพากษาจำคุก 12 ปี แต่ถูกจำคุกได้ 7 ปี จึงพ้นโทษเมื่อปี 2559 และได้รู้จักกับนายจะสอ เป็นชาวเขา บ้านอยู่อำเภอแม่สรวย จ.เชียงราย ที่ถูกดำเนินคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจำลำปางด้วยกันมาก่อน
ภายหลังจากต่างคนต่างพ้นโทษออกมา ได้ติดต่อซื้อยาบ้าจากนายจะสอ มาขายให้กับกลุ่มเครือข่ายยาบ้าในจังหวัดลำปาง โดยได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 6 เดือน จนถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนดังกล่าว
นายจ๊อก ยังอ้างว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำกลางลำปาง ตั้งแต่ปี 2553 เทอม 2 ได้เรียนหนังสือคณะนิติศาสตร์ แบบระบบทางไกลจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จนจบในปี 2559 ในระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ
ตนเองชอบและเรียนทางด้านกฎหมาย จึงได้มีนักโทษด้วยกันส่วนมากเป็นคดียาเสพติดที่ไม่ได้จ้างทนายความซึ่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว ได้มาปรึกษาเรื่องคดีความจึงได้แนะนำ ให้เขียนคำร้องผ่านระบบจากในเรือนจำไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ไปถึงศาลอุทธรณ์ และสามารถช่วยเหลือได้จำนวนหลายคน จากโทษหนักให้เป็นเบาลงได้
ส่วนที่เลือกเรียนนิติศาสตร์ ตนเองมีเป้าหมายใฝ่ฝันอันสูงสุดที่อยากจะเป็นคือพนักงานอัยการ แต่กฎหมายห้ามไว้เนื่องจากบุคคลที่เคยต้องคดีอาญาถูกศาลพิพากษาให้ถึงที่สุดถูกจำคุก จึงไม่สามารถที่จะสอบเป็นพนักงานอัยการได้ จะเป็นได้เพียงทนายความเท่านั้น
และระหว่างที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวออกจากบ้าน ได้มีหญิงคนหนึ่งชื่อขนุน ที่นายจ๊อก จ้างมาเป็นแม่บ้านได้ขอหอมไปหนึ่งที รวมทั้งยังได้ขอกล่าวลาศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่ภายในบ้าน โดยที่ผ่านมาให้คอยปกปักรักษามาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป