10 อันดับเมฆที่หาดูได้ยาก

10 อันดับเมฆที่หาดูได้ยาก

10 อันดับเมฆที่หาดูได้ยาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชมภาพกลุ่มเมฆรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมีลักษณะต่างๆและเกิดแสงกระทบกัน เหมือนแมงกะพรุน ม้วนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ จานยูเอฟโอ และอื่นๆ

 

 

 

 

 

 

 

อันดับ 10 Altocumulus Castelanus

เมฆกลุ่มนี้คือจะเป็นพุ่มๆเหมือนแมงกะพรุน เกิดจากลมที่ชื้นๆจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มาเจอกับอากาศแห้งๆ

 

อันดับ 9 Nacreous

เมฆนี้เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งเมฆาเลยทีเดียว เพราะสีนวลตาและหลากสี ทำให้เพลินตาดี ซึ่งจะพบได้ที่แถบใกล้ๆ ขั้วโลกเช่นสแกนดิเนเวียตอนช่วงหน้าหนาว เวลาเย็นๆ ที่แสงอาทิตย์ส่องผ่านเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้นที่เราจะเห็นแบบนี้

 

 

อันดับ 8 Mammatus Clouds

เมฆลักษณะแบบเป็นกระเปาะยื่นลงมา คนทั่วไปมักจะนึกว่าเดี๋ยวจะมีพายุเข้ามารึเปล่า จริงๆแล้ว เมฆนีไม่ใช่สัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด แต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พายุทอร์นาโดพ้นผ่านไปแล้ว

 

อันดับ 7 Mushroom Clouds

เมฆแบบนี้คงไม่ใช่อะไรที่จะดีเท่าไหร่ เพราะมันเกิดจากการระเบิดอย่างแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับระเบิดนิวเคลียร์

 

อันดับ 6 Noctilucent Clouds

เมฆตามชื่อ คือ เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนแต่เรืองแสง ซึ่งเกิดที่บริเวณแถวๆ ใกล้ๆ ขั้วโลกโดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้

 

อันดับ 5 Cirrus Kelvin-Helmholtz

เมฆม้วนเป็นเกลียว โอกาสเกิดขึ้นยากมาก และเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3นาที แล้วจากนั้นก็เละ เรียกว่าเป็นความบังเอิญจริงๆ

 

อันดับ 4 Lenticular Clouds

เกิดจากหลายองค์ประกอบ ทั้งลมและความชื้น ทำให้รวมกลุ่มกลายเป็นเลนส์ได้ (แต่บางครั้งก็เหมือนUFO)

 

อันดับ 3 Roll Clouds

เป็นเมฆฝนถึงขั้นที่จะเกิดพายุ แต่เป็นเมฆก้อนใหญ่บวกกับความดันอากาศ ความร้อนและเย็น ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเมฆเป็นการม้วน เลยดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่

 

อันดับ 2 Shelf Clouds

ลักษณะคล้ายๆ กับอันดับ 2 แต่อันนี้ไม่ได้เป็นการม้วน แต่เป็นชั้นๆ เหมือนที่กำบัง (บ้างก็ว่าเหมือนลิ้นชัก) และจะมาเป็นแนวตั้ง นอกจากนี้มันยังคล้อยตัวต่ำจนน่ากลัว และเขาบอกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในนั้นนี่ อย่างกับในหนังเลยครับ เหมือนพายุกระหน่ำรวมทั้งอุณหภูมิที่ร้อนมากๆ และการหมุนของพายุที่น่าสะพรึงกลัว

 

 

อันดับ 1 Stratocumulus Clouds

เมฆแบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก ลักษณะมันก็เหมือนกับเอาดินน้ำมันมานวดๆ เลยออกมาเป็นเส้นยาวๆ และเผอิญว่าเส้นยาวๆ จะแบ่งเป็นช่วงๆ ซะด้วย ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องของการเกาะกลุ่ม

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook