"ตำรวจภาค 4" รวบ "พ่อค้ายาบ้า" คารีสอร์ต หลังปะทะเดือดขณะเข้าตรวจค้น

วันที่ 23 ส.ค. 61 นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นายูง จ.อุดรธานี นำกำลังบุกเข้าจับกุมนายธีรวุฒิ หรือริท อายุ 37 ปี นายจักพงษ์ หรืออู๋ อายุ 20 ปี และนายฤทธิชัย หรือตั๋น อายุ 24 ปี
ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดอุดรธานี และผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ที่หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากบดานอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
ก่อนจะทำการตรวจค้นภายในห้องพัก พบของกลางเป็นยาเสพติดไอซ์ น้ำหนักรวม 56 กรัม, ยาบ้า 142 เม็ด, อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนหลายรายการ
รถยนต์ยี่ห้อนิสสันจู๊ค สีแดง หมายเลขทะเบียน ขท5464 ขอนแก่น, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น R-15 จำนวน 1 คัน, เงินสด 70,480 บาท และทองคำรูปพรรณ หนัก 2 บาท รวมทั้งของกลางอื่นๆ อีก 11 รายการ
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ 4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นายูง จ.อุดรธานี ได้ติดตามจับกุมนายจักรพงศ์ ชาวตำบลบ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี ผู้ต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
จึงวางแผนเข้าจับกุม เมื่อไปถึงบ้านที่ผู้ต้องสงสัย พบชาย 2 คนอยู่บริเวณหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น แต่ชายทั้ง 2 คนกลับวิ่งหลบหนี พร้อมกับเล็งปืนยิงมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้ ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหลบหนีเข้าป่าอ้อยไปได้
ซึ่งต่อมาทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 คนที่หลบหนี คือนายจักรพงศ์ และนายฤทธิชัย ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดและคดีอาวุธปืนมาแล้ว ต่อมาวันที่ 22 ส.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นายูง ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ติดตามจับกุม
จนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลบหนีไปอาศัยอยู่กับเครือข่ายยาเสพติดที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยอาศัยอยู่ในห้องพักหมายเลข 8 กระทั่งในเวลาประมาณ 16.00 น. มีชายอายุประมาณ 35 ปี เดินออกมาจากห้องพักดังกล่าวไปที่ ห้องพักหมายเลข 1
ซึ่งขณะกำลังเปิดรถยนต์ยี่ห้อนิสสันจู๊ค สีแดง ทราบชื่อคือ นายธีรวุฒิ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า ไอซ์ อุปกรณ์เสพยาเสพติด และเครื่องกระสุนปืน
จากการสอบถามนายธีรวุฒิ ให้การว่านายจักรพงศ์ และนายฤทธิชัย ได้พักอยู่ในห้องพักหมายเลข 8 ซึ่งได้หลบหนีตำรวจมาขอความช่วยเหลือกับตนเอง โดยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนติดตัวมาด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมนายจัดรพงศ์ และนายฤทธิชัย ที่ห้องพักหมายเลข 8 พร้อมกับทำการตรวจค้นภายในห้อง และตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย
มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป