ชาวบ้านตะลึง เพิ่งจะรู้ลุงขับวินรับจ้าง ที่แท้เป็นตำรวจยศ "พ.ต.อ." (มีคลิป)

แชร์กระทั่งโซเชียลมีเดีย ชาวบ้านเพิ่งจะทราบว่า คุณลุงขับวินจักรยานยนต์ที่แท้เป็นตำรวจยศสูงถึง "พันตำรวจเอก" ตำแหน่งผู้กำกับ แต่เลือกอาชีพขี่รถรับจ้างมากว่า 20 ปีแล้ว
จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียได้แชร์ภาพและข้อความของ พันตำรวจเอก ที่ผันตัวกลายมาเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้าง กลายเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยคุณลุงวินจักรยานยนต์คนนี้แท้จริงแล้ว มียศเป็นถึงพันตำรวจเอกจริงๆ ปัจจุบันทำอาชีพขับรถรับจ้างอยู่ที่วินปากทางเข้าโรงเรียนตำรวจภูธร 2 จังหวัดชลบุรี
วินจักรยานยนต์คนดังกล่าวก็คือ ลุงอู๊ด หรือ พันตำรวจเอกธีระศักดิ์ พบศิลา เป็นคนขับวินหมายเลข 16 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับลุงอู๊ด ทำให้ทราบว่า ลุงอู๊ด จบการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจภูธร 2 ชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2519 รับราชการตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ได้สอบเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายตำรวจยศร้อยตำรวจตรี จนถึงยศปัจจุบัน คือ พันตำรวจเอก ก็ใช้ชีวิตรับราชการมาตามปกติ แต่เงินเดือนข้าราชการตำรวจนั้นไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของครอบครัว จึงทำให้ลุงอู๊ดและเจ๊กุ้ง ภรรยาช่วยกันมองหาหนทางทำมาหากิน เพื่อจะสร้างครอบครัวให้มีความมั่นคงทางการเงิน
กระทั่งทั้งสองได้พบว่าการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้นเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง ซึ่งให้เวลาในการดูแลลูกๆ ได้เต็มที่เท่าที่ต้องการ และสามารถสร้างรายได้ให้มากพอจนไม่ต้องใช้ชีวิตลำบากมากนัก จึงได้ตัดสินใจที่จะทำอาชีพเสริมโดยการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างกันทั้งสองคน
นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว แม้ลุงอู๊ดจะสอบเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้แล้ว แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งอาชีพการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในทุกครั้งที่มีเวลา แต่ที่ทำให้ตะลึงมากกว่านั้น ลุงอู๊ดบอกว่าเขายังใช้เวลาว่างในการรับจ้างเป็นยามเฝ้าโรงน้ำแข็งในเวลากลางคืนอีกด้วย
ในบางวันเขาก็รับจ้างเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้กับร้านทองในบริเวณใกล้เคียง เพื่อแลกกับค่าจ้างเพื่อเอาใช้ในครอบครัว แม้ว่าขณะนี้ลุงอู๊ดจะมียศติดตัวเป็นถึงพันตำรวจเอกแล้วก็ตาม หลายๆ กิจการปฏิเสธไม่ยอมจ้างลุงอู๊ด เหตุเพราะเขามียศที่สูงเกินไป แต่ลุงอู๊ดยืนยันหนักแน่นว่า เขาไม่ได้มาขอทำสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย หรือ ผิดทำนองคลองธรรม แม้เขาจะมียศที่สูงมาก แต่เขาก็ได้ทำหน้าที่ในการเป็นข้าราชการอย่างเต็มที่เสมอ
และอีกหน้าที่หนึ่งที่เขายังต้องทำในชีวิต คือการดูแลครอบครัวของเขาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีพอ การจะทำให้ได้เป็นแบบนั้นคือการมีรายได้ที่มากเพียงพอต่างหาก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเขาจะรับจ้างเฝ้าร้านทอง รับจ้างเป็นยามเฝ้าโรงน้ำแข็ง หรือ ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ตาม เขาทำเพื่อครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาทั้งนั้น จนซื้อใจเจ้าของกิจการต่างๆ ได้ และยอมจ้างให้เขามาทำหน้าที่ตลอดมา
ขณะนี้ลุงอู๊ดได้เลือกการเกษียณอายุราชการก่อนเวลา ในตำแหน่งสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ พันตำรวจโท และได้รับบำเหน็จโดยการเชิดชูเกียรติ์จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มยศให้อีก 1 ชั้น เป็นพันตำรวจเอก เพื่อออกมาทำอาชีพการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่างเต็มเวลา ร่วมกับ เจ๊กุ้ง ภรรยาคู่ทุกคู่ยากที่ร่วมเดินในเส้นทางเดียวกันมาตลอด
สำหรับในวันนี้ลุงอู๊ดได้ยินยอมให้เรานำประวัติเส้นทางนักสู้ของเขามาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ โดยเฉพาะสังคมตำรวจ เพื่อเป็นตัวอย่างของคนสู้ชีวิต คนที่ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา คนที่รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา และ ลุงอู๊ดอยากฝากบอกทุกคน โดยเฉพาะตำรวจว่าอย่ายึดติดกับยศ และ ตำแหน่งมากเกินไป เป็นเหมือนหัวโขน เวลารุ่งเรืองก็มีคนสรรเสริญเยินยอ เวลาตกทุกข์หมดอำนาจวาสนาก็มีคนดูถูก ไม่มีใครจริงใจ อาชีพสุจริต เป็นอาชีพที่สูง
อีกทั้งยังขอให้ดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่อยู่กับเราเสมอคือครอบครัวของเรานั่นเอง ปัจจุบันใช้ชีวิตครอบครัวอย่างเรียบง่าย มีลูกสาว 1 คน และภรรยาที่คอยอยู่เคียงข้างกันแบบนี้และดูเหมือนว่าความรักของพี่เขาทั้ง 2 ไม่ลดลงเลย