พลเมืองดีเสียใจ เจอแท็กซี่สาวรถคว่ำแต่ช่วยไม่ไหว เห็นไฟคลอกสยองต่อหน้า

พลเมืองดีเสียใจ เจอแท็กซี่สาวรถคว่ำแต่ช่วยไม่ไหว เห็นไฟคลอกสยองต่อหน้า

พลเมืองดีเสียใจ เจอแท็กซี่สาวรถคว่ำแต่ช่วยไม่ไหว เห็นไฟคลอกสยองต่อหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แท็กซี่ขับฝ่าสายฝนด้วยความเร็ว เกิดรถเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งชนเสาไฟฟ้า ก่อนเพลิงลุกไหม้คลอกโชเฟอร์ขับสาววัย 32 ปี เสียชีวิตคาซากรถ

เมื่อเวลา 00.30 น. ( 11 ส.ค.) ร.ต.อ.คนึง พรหมใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำแล้วมีไฟลุกไหม้ บริเวณใกล้เคียงห้างโลตัส ถนนพิษณุโลก – วังทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงประสานขอรถน้ำจากเทศบาลนครพิษณุโลกและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานเข้าทำการควบคุมเพลิง

ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่สีเหลืองน้ำเงิน ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน นข 140 พิษณุโลก ของบริษัท คิงด้อมทัวร์ 2015 มีไฟลุกไหม้ท่วมรถและมีการระเบิดเนื่องจากตัวรถได้ติดตั้งแก๊ส LPG เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องรีบนำรถมาฉีดสกัดเพลิงอย่างเร่งด่วน ใช้เวลา 15 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด ตรวจสอบภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ภุภัคชญา อายุ 32 ปี สภาพศพถูกไฟไหม้ตั้งแต่ท่อนล่างและแขนข้างซ้ายจนเกรียม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันนำร่างออกมาจากตัวรถเพื่อนำมาชันสูติเบื้องต้น ในเวลาต่อมาแม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ถึงกับร้องไห้โฮออกมา

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าตนได้ขับรถผ่านมาเห็นว่ารถคันดังกล่าวได้พลิกคว่ำตกลงในคลองน้ำข้างทาง ตนจึงได้ลงเข้าไปช่วยเหลือทันทีแต่ไม่สามารถช่วยผู้ตายออกมาจากตัวรถได้เนื่องจากผู้ตายไม่มีการตอบสนองแล้ว ประกอบกับในเวลานั้นได้มีประกายไฟลุกขึ้นบริเวณด้านหลังรถซึ่งมีแก๊สรั่ว ตนจึงได้ถอยออกมา เพราะกลัวว่ารถคันดังกล่าวจะระเบิด ตนรู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนขับออกมาจากตัวรถได้ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้อย่างรุนแรง

จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้เสียชีวิตอาจขับรถมาด้วยความเร็วและระหว่างเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก คาดว่ารถของผู้เสียชีวิตอาจจะเสียหลักลื่นทำให้รถหมุนพุ่งไปชนกับไฟฟ้าข้างทางหักไป 1 ต้น ก่อนจะพลิกคว่ำและมีไฟลุกไหม้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูติอย่างละเอียด ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook