ทำเกินไปไหม? บุกล็อกคอจับพ่อคาโรงเรียน ปมแย่งลูก สุดท้ายยังโอละพ่อ

แชร์สนั่นภาพพ่อลูก 2 ถูกทหาร-ตำรวจนำกำลังบุกล็อกคอจับกลางโรงเรียน หลังอดีตภรรยาแจ้งจับอ้างค้ายา เพราะปมแย่งสิทธิ์เลี้ยงลูก แต่สุดท้ายสืบสวนพบเป็นผู้บริสุทธิ์
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ได้แชร์คลิปวิดีโอความยาวประมาน 4 นาที ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารหลายนาย กำลังรุมจับกุมชายคนหนึ่งอยู่ภายในโรงเรียน ท่ามกลางสายตาของคุณครูและนักเรียนเป็นจำนวนมาก พร้อมระบุข้อความว่า
"น่าสงสารพี่เขานะคะ เหตุแย่งลูก ฝ่ายพี่ผู้ชายเอาลูกมาเลี้ยง 2 คน พาย้ายหนีฝ่ายแม่มาหลายโรงเรียน จนทางแม่ไปฟ้องศาลว่าพ่อไม่มีสิทธิ์เลียงดูลูก จนกระทั่งพ่อพาย้ายมาเรียนที่อื่น แกก็ค่อยเฝ้าลูกตลอด กลัวทางฝ่ายแม่มาเอาไป แล้ววันนี้ฝ่ายแม่ก็เอาหมายมายืนยันสิทธิ์ ตำรวจ-ทหารเลยมาบุกจับพี่แก พี่แกก็มาคนเดียวจะไปสู้อะไรใครได้ แต่เหตุการณ์วันนี้ทางตำรวจทำเกินไปไหม ถ้าเราโดนกล่าวหาแต่เราไม่ทำ ตำรวจมีสิทธิ์ทำถึงขนาดนี้ด้วยหรือ"
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายธารา อายุ 35 ปี ชายที่ถูกจับในคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงตอนพักกกลางวันที่โรงเรียนของลูก เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) ตนได้เดินทางไปทานข้าวกับลูกสาวทั้ง 2 คนที่โรงเรียนใน อ.บางละมุง โดยจะทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน
ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นนั้นเพราะตนกับภรรยาได้หย่าร้างกันเมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้เกิดปัญหาฟ้องร้องเรื่องสิทธิเลี้ยงดูลูกมาโดยตลอด ที่ผ่านมาตนเป็นฝ่ายดูแลและเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนมาโดยตลอด อาจจะมีช่วงปิดเทอมที่ลูกไปเที่ยวหาฝ่ายอดีตภรรยาบ้าง
นายธารา ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
หากเมื่อลูกไปอยู่กับอดีตภรรยาก็จะถูกขัดขวางพยายามให้ตนติดต่อกับลูกๆ ทำให้ตนต้องไปตามตัวกลับมาทุกครั้ง ซึ่งตนได้เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด 3 ปี ทำให้ฝ่ายอดีตภรรยาไม่พอใจ จนเหตุการณ์ล่าสุดอดีตภรรยาและครอบครัวได้พาทหารและตำรวจเข้ามาจับกุมตนและทำร้ายร่างกายตนถึงที่โรงเรียน พร้อมกับพรากลูกๆ ทั้ง 2 คน ขึ้นรถไปตามที่ปรากฏในคลิป
เมื่อเดินทางมาถึง สภ.บางละมุง ตนก็ได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ตนได้ทราบว่า ทางฝ่ายอดีตภรรยาได้ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมว่า ตนมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดและครอบครองอาวุธปืน พร้อมมีพฤติการณ์ต่อสู้หลบหนี ซึ่งหากปล่อยให้ดูแลลูก เด็กๆ จะไม่ปลอดภัย
เป็นเหตุทำให้ต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหาร นำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว ภายหลังจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาสารเสพติดและอาวุธปืน พบว่าไม่ได้มีหลักฐานตามที่ถูกกล่าวหา ทำให้ยืนยันได้ว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวกลับ
หลังจากนั้นตนจึงเดินทางมาตรวจร่างกาย เพื่อเป็นหลักฐานในการร้องทุกข์และแจ้งความกลับ ฐานถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บต่อไป