ชาวบ้านหวั่นใจ กฎหมายไทยอ่อนเกิน เอาผิดเด็กๆ ฆ่าชายเพี้ยนไม่ได้

ชาวบ้านหวั่นใจ กฎหมายไทยอ่อนเกิน เอาผิดเด็กๆ ฆ่าชายเพี้ยนไม่ได้

ชาวบ้านหวั่นใจ กฎหมายไทยอ่อนเกิน เอาผิดเด็กๆ ฆ่าชายเพี้ยนไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คืบหน้าคดีกลุ่มเยาวชนทำร้ายชายสติไม่ดีเสียชีวิต ชาวบ้านหวั่นกฎหมายไทยอ่อนเกินไป เอาผิดเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้ ด้านตำรวจชี้แจงยังไม่แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย เพราะรอผลชันสูตรประกอบคดีก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ นายประเสริฐ อายุ 44 ปี ถูกทำร้ายร่างกาย นอนเสียชีวิตอยู่ที่ศาลาประชาคม หมู่บ้านพะเนา หมู่ที่ 1 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ก่อนจะมีชาวบ้านแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กอายุประมาณ 12-14 ปี ประมาณ 4-5 คน ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่ สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นั้น

ล่าสุดในวันนี้ (27 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับชาวบ้าน ในหมู่บ้านพะเนา หมู่ที่ 1 ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าประชาชนหลายคน ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต่างวิพากษ์วิจารถึงพฤติกรรมของเด็กๆ ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อสังคม อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยไว้ให้ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชน เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้

>> โซเชียลเดือด กลุ่มเด็กรุมตีชายสติไม่ดีจนตาย เพราะเตือนเรื่องขโมยของ

นายสุชาติ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายอาหารตามสั่ง บอกว่า ตนเห็นเด็กๆ กลุ่มนี้วิ่งเล่นอยู่บริเวณหน้าร้านเป็นประจำ ซึ่งหลายครั้งที่มาส่งเสียงเอะอะโวยวาย สร้างความรำคาญใจให้กับคนในร้าน ก่อนเกิดเหตุทราบว่านายประเสริฐ ถูกเด็กๆ กลุ่มนี้รุมทำร้ายอยู่ภายในวัดในชุมชน ก่อนที่จะมารุมทำร้ายต่อที่ศาลากลางประชาคม ทำให้เสียชีวิต

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวเด็กกลุ่มนี้ไป ซึ่งมีอายุ 12-14 ปี แต่หลังจากนั้นแค่ 1 วันก็ถูกปล่อยตัวออกมาเหมือนเดิม และยังได้ไปพูดคุยโอ้อวดให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟังทำนองว่า "ฆ่าคนตายแล้วไม่เห็นโดนจับ" ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็เกรงว่าเด็กกลุ่มนี้จะย่ามใจ ไปก่อคดีอื่นได้อีก ตนจึงมองว่าการที่กฎหมายของไทยอ่อนเกินไป อาจจะทำให้เยาวชนหันมาก่อเหตุรุนแรงเพิ่มยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ นายบุญชู อายุ 77 ปี ชาวตลาดจอหอ กล่าวว่า นายประเสริฐเป็นคนไม่มีพิษมีภัยกับใคร ยังเป็นที่รักของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดจอหอมาก เพราะชอบมาช่วยเหลือขนของให้กับคนในตลาด ทั้งนี้ตนไม่อยากให้คดีนี้จบลงด้วยการปล่อยตัวเด็กๆ ผู้ก่อเหตุออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

ทางด้าน พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า คดีดังกล่าวตำรวจ สภ.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ได้ติดตามจับกุมเด็กชายอายุระหว่าง 12-14 ปี ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนเด็กก็รับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายจริง ส่วนผลจากการทำร้ายร่างกายนั้นจะถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่จะต้องรอผลพิสูจน์จากแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสี ออกมาก่อน

หลังจากนั้นตำรวจก็จะแจ้งข้อกล่าวหาแก่เด็กที่กระทำผิดต่อไป โดยตามขั้นตอนของกฏหมายจะต้องมีสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเป็นเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าตำรวจได้ดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือเข้าข้างบุคคลใดทั้งสิ้น

ทั้งนี้จากการสืบประวัติของเด็กๆ ที่ก่อเหตุเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ จับกุมตัวในข้อหาขโมยทรัพย์สินและก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนมาก่อน แต่เมื่อตำรวจดำเนินคดีนำตัวส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วเด็กกลุ่มนี้ก็กลับมาก่อเหตุอีก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ตนจึงสั่งการให้ตำรวจ สภ.จอหอ เพิ่มความถี่ในการตรวจตรา ทั้งสายตรวจจักรยานยนต์และรถยนต์และขอความร่วมมือจากผู้ปกครองให้เข้มงวดในการดูแลบุตรหลานเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook