ลุง-ป้าสะอื้นตามหา “คลองคา” หลังพบว่าหายไป 3 กม.ในเขตอุตสาหกรรมบริษัทดัง

( 20 ก.ค. 61 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านแลง จ.ระยอง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีที่ นางพยุง อายุ 68 ปี และ นายอุดม อายุ 72 ปี ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์บ้านแลงได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ว่า คลองคา ที่เคยมีอยู่ในอดีตของคนในชุมชนบ้านแลงได้หายไป หลังมีการขยายเขตประกอบการอุตสาหกรรม IRPC ขอให้ตรวจสอบในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ป้าพยุง กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานจนเกิดข้อพิพาทของชาวบ้านบางส่วนในตำบลบ้านแลง ที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของหน่วยงานรัฐ ในการอนุญาตให้เกิดมีเขตประกอบการอุตสาหกรรม ( IRPC ) ในอำเภอเมืองระยอง โดยมีการดำเนินการต่างๆ ในเรื่องของพื้นที่รวมกว่า 6 พันไร่ ทำให้ลำคลอง ที่ชื่อว่า “คลองคา” ได้หายไปจากการประกอบการอุตสาหกรรมดังกล่าว
และได้มอบอำนาจให้ อาจารย์ศรีสุวรรณ จรรยา รับมอบนำฟ้องต่อศาลปกครองระยองไปแล้วตั้งแต่ ปี 2555 ถึงการรุกที่สาธารณะในเขตประกอบการอุตสาหกรรมในอำเภอเมืองระยอง ซึ่งยังอยู่ในขบวนการชั้นศาลของศาลปกครองระยอง
ป้าพยุง ได้กล่าวอีกว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานมาร่วมตรวจสอบ ว่าคลองคาหายไปไหน ซึ่งก็ทราบกันดีว่า คลองคาที่หายไปเกิดจากการแลกเปลี่ยนพื้นที่ของคนในชุมชน ที่ดำเนินการทำประชาพิจารณ์ตามมาตรา 8 และ 9 ในเรื่องของการเช่าและแลกเปลี่ยนที่ดิน ตามประมวลกฏหมายที่ดิน และในเรื่องนี้ ป้าพยุง ได้กล่าวว่า “ขอคลองคาที่เคยมีอยู่กลับมา" เพราะกลัวปัญหาน้ำท่วมของชาวบ้านแลงจะกลับมาเหมือนเมื่อปี 2554-2555 ที่ท่วมหนักมากจนชาวบ้านเดือดร้อน
ต่อมาหลังการตรวจสอบในที่ดินตามข้อพิพาทของคลองคาที่หายไป บริษัท IRPC ได้มีการเปิดโต๊ะชี้แจงในเรื่องดังกล่าว ที่ศูนย์การเรียนรู้ IRPC โดยมีผู้บริหารของบริษัท IRPC เข้าชี้แจงในเรื่องดังกล่าวถึงความถูกต้องในการดำเนินการในเขตประกอบการอุตสาหกรรม ต่อตัวแทนชาวบ้านในตำบลบ้านแลง
พร้อมทั้งได้เปิดวีดีทัศน์ และแสดงเอกสารทั้งหมดในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดินระยอง เจ้าหน้าที่ อบต.บ้านแลง อบต.ตะพง เทศบาลตำบลเชิงเนิน และนายธัชพล เอี่ยมงาม ปลัดอำเภอเมืองระยอง รับฟังในปัญหาที่เกิดขึ้น
สำหรับการเปิดโต๊ะเจรจาในการหาข้อยุติ น.อ.จาริก พัวพานิช รอง ผอ.รมน.จังหวัดระยอง ได้นั่งเป็นประธานในการเจรจาหาข้อสรุป มีผู้เข้าร่วมรับฟังและชี้แจงรวมกว่า 20 คน ซึ่งการเปิดโต๊ะเจรจาผลทำให้ชาวบ้านแลง และชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง เสียงแยกเป็น 2 กลุ่ม
คือ กลุ่มที่สนับสนุนให้เกิดมีเขตประกอบการอุตสาหกรรม และกลุ่มที่ไม่สนับสนุน ก็คือ ป้าพยุง และ ลุงอุดม ที่ยืนยันว่าต้องการคลองคากลับมาเหมือนเดิม และการเจรจาที่ไม่เป็นผล ป้าพยุงได้กล่าวกับทีมข่าวว่า
“จุดยืน ของป้า คือจุดยืนเดิมที่ว่า ป้าต้องการคลองคา เป็นของสาธารณะประโยชน์ ของประชาชนใช้ร่วมกันได้ โดยที่ว่าทำให้เป็นสาธารณะประโยชน์ และถ้าหากว่าทางโรงงาน เขาไม่โอเค ป้าก็รอคำตัดสิน ของศาลปกครองระยอง เพราะป้าก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเหมือนกัน ขอรอศาลเพราะศาลเป็นที่พึ่ง ศาลตัดสินมาว่าอย่างไรป้าก็จะยอมรับอย่างนั้น"
ขณะที่ทางบริษัท IRPC ได้ยืนยันกับทีมข่าวว่า การดำเนินการในทุกขั้นตอนได้กระทำโดยความถูกต้องของการดำเนินการในเขตประกอบการอุตสาหกรรม และในข้อพิพาทที่เกิดขึ้นของป้าพยุง และลุงอุดม ทางบริษัทฯ ก็พร้อมดำเนินการให้ในทุกด้านให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านต้องการอย่างไร ก็ดำเนินการในทุกสิ่งที่จะหาทางออกร่วมกัน
ส่วนคดีความที่ทางป้าพยุง และ ลุงดม ที่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุป ทางบริษัทก็ขอให้รอคำตัดสินของศาลปกครองว่าจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร ก็พร้อมดำเนินการตามคำสั่งทันที
ด้าน น.อ.จาริก พัวพานิช รอง ผอ.รมน.จังหวัดระยอง ได้กล่าวในที่ประชุมชี้แจงว่า ในเหตุที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายควรรับฟังซึ่งกันและกัน ประเทศชาติจะขับเคลื่อนไปได้ และในทุกปัญหารัฐบาลมีความเป็นห่วงในสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อน กอ.รมน.ต้องมองในทุกมิติเพื่อให้เกิดการพัฒนา และพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนในความถูกต้อง
สำหรับคลองคา ที่เป็นเหตุแห่งการพิพาทระหว่างชาวบ้านแลง อ.เมืองระยอง กับ บริษัท IRPC เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน โดยตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ปี 2561 กลุ่มคนรักษ์บ้านแลงยังคงยืนยันว่า ต้องการคลองคา กลับมาเป็นคลองสาธารณะประโยชน์ของคนในชุมชนใช้ร่วมกัน
นายรณรงค์ อายุ 45 ปี ที่ปรึกษากฏหมายกลุ่มคนรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านแลง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของคลองคาในอดีตจะเริ่มที่บ้านขวากลิง ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง ไหลผ่านตำบลเชิงเนิน รวมระยะทางที่คดเคี้ยวจนออกถึงทะเลประมาณ 30 กิโลเมตร แต่ว่ามาขาดหายไปตรงเขตประกอบการอุตสาหกรรม IRPC ระยะหายไปประมาณ 3 กิโลเมตร จากเขตรอยต่อของตำบลบ้านแลงและตำบลเชิงเนิน
ซึ่งชาวบ้านหวั่นว่าจะเกิดน้ำท่วมเหมือนในปี 54-55 ที่ผ่านมา จึงยังคงคัดค้านในเรื่องของที่ดินดังกล่าว ตามมาตรา 8 และ 9 ของกฏหมายที่ดิน ที่อนุญาตให้เขตประกอบการอุตสาหกรรมแลกและเช่าในที่ดินดังกล่าวได้
อย่างไรก็ดี เสียงของชาวบ้านอีกกลุ่มที่สนับสนุนการมีเขตประกอบการอุตสาหกรรม IRPC ได้กล่าวว่า อุตสาหกรรมเป็นสิ่งดีที่จะเกิดการพัฒนา ของคนในชุมชนลูกหลานจบมาก็จะได้มีงานทำบ้านเมืองเจริญ และที่ผ่านมาถือได้ว่า บริษัท IRPC ดูแลชุมชนได้ดีรวมถึงในด้านของสิ่งแวดล้อมดูแลได้ดีมาก
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ