ทิ้งยาคารถ- จนท.ไล่เก๋งพ่อค้ายาชนแบริเออร์ คนร้ายข้ามถนนหนีลอยนวล

ทิ้งยาคารถ- จนท.ไล่เก๋งพ่อค้ายาชนแบริเออร์ คนร้ายข้ามถนนหนีลอยนวล

ทิ้งยาคารถ- จนท.ไล่เก๋งพ่อค้ายาชนแบริเออร์ คนร้ายข้ามถนนหนีลอยนวล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ หะรังสี รอง สว.สอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งจาก ร.ต.ท.วุฒิชัย บุญยู้ รอง สว.งานสายตรวจ กก. สายตรวจ บก.สปพ.ว่าได้ติดตามจับกุมคนร้ายคดียาเสพติดแล้วรถยนต์คนร้ายได้ประสบอุบัติเหตุ

ภายในรถมียาเสพติดจำนวนหนึ่งส่วนคนร้ายหนีไปได้ ขอให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณถนนรังสิต-ปทุมธานี ขาเข้ากทม. ปากทางเข้าบริษัทเวิร์คพอยท์ ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุกลางถนนพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ร-0010 กรุงเทพมหานคร ชนติดอยู่กับแบริเออร์เกาะกลางถนนสภาพพังยับเยิน บริเวณกันชนหลังมีร่องรอยการถูกยิง 1 นัด

ภายในรถยนต์พบถุงพลาสติกสีดำมัดปาก ภายในบรรจุวัตถุคล้ายห่อชาคาดว่าเป็นยาไอซ์จำนวน 3 ถุงใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 30 กิโลกรัม ส่วนคนร้ายที่มากับรถเป็นชายจำนวน 2 คนได้วิ่งข้ามถนนหลบหนีไปได้

ร.ต.ท.วุฒิชัย บุญยู้ เปิดเผยว่า กำลังชุดปฏิบัติการกองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 ได้เข้าสังเกตการณ์ปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังขยายผลจากการจับกุมยาเสพติดยาบ้า 2 ล้านเม็ดก่อนหน้านี้   

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ยี่ห้อ Toyota Yaris สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ร-0010 กรุงเทพมหานคร กำลังขับออกจากบ้านเป้าหมายภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดกั้นเพื่อจับกุมแต่คนร้ายได้แหกด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจชนประตูกั้นของป้อม รปภ.ด้านหน้าหมู่บ้านจนได้รับความเสียหาย

เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงยางรถเพื่อสกัดการหลบหนี ก่อนที่ผู้ขับขี่เร่งเครื่องหลบหนีแล้วไปพุ่งชนแบริเออร์กลางถนน จนรถยนต์ได้รับความเสียหาย สภาพด้านหน้าพังยับเยินขับต่อไม่ได้ ส่วนผู้ขับขี่ได้หลบหนีไปได้

ภายในรถพบถุงพลาสติกสีดำ จากการตรวจสอบพบบรรจุห่อชา และถุงพลาสติกแบบกดปิดดึงเปิด ภายในบรรจุยาไอซ์จำนวน 26 กิโลกรัม นอกจากนี้ใต้เบาะที่นั่งข้างคนขับยังพบแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 2 แผ่นหมายเลข 3กก-2528 กทม. ที่คาดว่าเป็นทะเบียนปลอม เครื่องตรวจจับโลหะ เครื่องแสกนอาวุธ

เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายภายในรถยนต์อย่างละเอียดเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

ขณะที่ภายในบ้านเป้าหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายโกวิทย์ อายุ 26 ปี และน.ส.ธัญยธรณ์ อายุ 26 ปี สองสามีภรรยาที่มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวได้เพียง 1 ปีพร้อมด้วยยาไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม และรถยนต์อีกจำนวน 2 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึด และควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook