เก๋งหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงร่วงใส่ ไฟลุกท่วมสยอง

เก๋งหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงร่วงใส่ ไฟลุกท่วมสยอง

เก๋งหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงร่วงใส่ ไฟลุกท่วมสยอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มพาครอบครัวเที่ยวอัมพวา ซิ่งเก๋งหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงร่วงตกใส่รถยนต์ ไฟลุกท่วมหวิดย่างสยองยกครัว

(9 ก.ค.) เมื่อคืนที่ผ่านมา พันตำรวจโทรณภูมิ จิตปฐมพงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุรถชนเสาไฟฟ้าแรงสูง 22,000 โวลต์ แล้วเกิดไฟลุกไหม้ บริเวณถนนสมุทรสงครามอัมพวา ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ตรงข้ามสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสมุทรสงคราม หมู่ 1 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีขาว ชนอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้าแรงสูง 22,000 โวลต์ เสาหัก หม้อแปลงขนาดใหญ่ตกลงมาได้รับความเสียหาย ไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ตัวรถคันเกิดเหตุมีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำดับเพลิงใช้เวลา 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่รถยนต์ก็ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก

ส่วนคนขับและผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุชาติ อายุ 31 ปี เป็นคนขับ, นางสาวคลยา อายุ 28 ปี ภรรยา และลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งหมดเป็นชาวตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาชัยแม่กลอง ล่าสุดอาการปลอดภัย

พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่กำลังนอนอยู่ในบ้าน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 60 เมตร ได้ยินเสียงรถชนดังสนั่นเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูง จึงรีบออกมาดูก็พบว่ามีผู้บาดเจ็บจึงรีบเข้าไปช่วย ไม่นานก็เกิดไฟลุกท่วมหมดคัน

อย่างไรก็ตามบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์หลุดโค้งเข้าบ้านของตนบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ชนเสาไฟฟ้าแทนหากเลยไปอีกนิดก็เข้าบ้านอย่างแน่นอน

นายสุชาติ คนขับรถเล่าว่า ตนพาครอบครัวไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ขากลับขณะที่กำลังขับรถลงสะพานในเลนกลาง พบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ติดคอกกระบะท้าย ขับเบียดขวาเข้ามา ทำให้รถตนเสียหลักหลุดโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างแรง โชคดีตนและครอบครัวไม่มีใครเสียชีวิต

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งลงสะพาน ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หลุดโค้งบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook