โซเชียลแห่ชม น้อง ม.6 ปั๊มหัวใจลุงตกต้นไม้ เรียกชีพจรกลับมาสำเร็จ

โซเชียลแห่ชม น้อง ม.6 ปั๊มหัวใจลุงตกต้นไม้ เรียกชีพจรกลับมาสำเร็จ

โซเชียลแห่ชม น้อง ม.6 ปั๊มหัวใจลุงตกต้นไม้ เรียกชีพจรกลับมาสำเร็จ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "ณิชาพัชร์ มิคะนุช" ได้โพสต์ภาพเด็กสาวกำลังช่วยปั๊มหัวใจช่วยชีวิตชายสูงอายุ โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวชายชราได้พลัดตกลงมาจากต้นไม้ ก่อนจะช็อกหมดสติ เด็กสาวตั้งสติเข้าไปช่วยปั๊มหัวใจ กระทั่งลุงฟื้นคืนสติกลับมาได้ และรอรถพยาบาลพาไปรักษาตัว โดยคลิปดังกล่าวถูกแชร์เผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง

กระทั่งในเวลาต่อมาทราบว่า เด็กสาวคนดังกล่าวคือ น.ส.ฌัฐณิชา มิคะนุช หรือ น้องน้ำว้า อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเพชรพิทยาคม อ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากจากโลกออนไลน์ ผู้สื่อข่าวจึงได้เสาะหาเบาะแสและตามไปพบกับน้องน้ำว้า

น.ส.ฌัฐณิชา เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกับแม่ รวมทั้งคุณปู่กับคุณย่าเดินทางไปดูที่ดินที่พ่อซื้อเอาไว้ เพื่อปลูกบ้านในอนาคตในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร

ซึ่งในขณะนั้นได้มีคุณลุงคนหนึ่งอายุประมาณ 50-60 ปี กำลังปีนตัดกิ่งมะขามสูงประมาณ 5-6 เมตร อยู่เพียงลำพัง แต่อยู่ๆ คุณลุงก็ได้พลัดตกลงมาเสียงดังตุบ ก่อนจะนอนแน่นิ่งไป ทุกคนต่างตกใจและทำอะไรไม่ถูก ตนพอจะตั้งสติได้จึงรีบเข้าไปจับที่ชีพจรดู ปรากฏว่าชีพจรของลุงไม่เต้นแล้ว จึงได้ทำการปั๊มหัวใจตามที่เคยเรียนมาก อยู่ประมาณ 2-3 นาที กระทั่งคุณลุงก็มีอาการสะดุ้งเฮือกและนอนแน่นิ่งไปอีก ตนจึงปั๊มหัวใจต่ออีก 2-3 ครั้ง ทำให้คุณลุงฟื้นคืนสติและรู้สึกตัวอีกครั้ง

จังหวะเดียวกันนั้นญาติๆ ของคุณลุงก็เข้ามาดูเหตุการณ์ ตนจึงบอกยังไม่ให้ขยับตัวผู้บาดเจ็บ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะได้รับการกระทบกระเทือน หรืออาจจะมีกระดูกหักก็เป็นได้จะยิ่งเป็นอันตรายแก่ผู้บาดเจ็บ จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งโรงพยาบาลมารับไปทำการรักษาตัว แพทย์ระบุว่าคุณลุงมีอาการซี่โครงหัก 3 ซี่ด้วยกัน แต่ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วและนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

น้องน้ำว้า เปิดเผยต่อว่า สาเหตุที่ตนทำ CPR หรือการปั๊มหัวใจเป็น เนื่องจากได้เคยไปเข้าค่ายในงานจุฬาฯ เอ็กซ์โปและได้เข้าร่วมวิธีการทำ CPR ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ทำจริงในสถานการณ์จริง และเป็นการช่วยชีวิตคนครั้งแรกเหมือนกัน ตนรู้สึกดีใจที่สิ่งที่เรียนรู้สามารถนำมาช่วยชีวิตผู้อื่นได้ และไม่คิดว่าภาพที่แม่ถ่ายเอาไว้จะได้รับคำชื่นชมจากสังคมมากมายเช่นนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook