ครูเยี่ยมบ้านน้ำตาร่วง "น้องจอย" เด็กเรียนดีอันดับ 1 สภาพสุดรันทด-กตัญญูสู้ชีวิต

ครูเยี่ยมบ้านน้ำตาร่วง "น้องจอย" เด็กเรียนดีอันดับ 1 สภาพสุดรันทด-กตัญญูสู้ชีวิต

ครูเยี่ยมบ้านน้ำตาร่วง "น้องจอย" เด็กเรียนดีอันดับ 1 สภาพสุดรันทด-กตัญญูสู้ชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

( 21 มิถุนายน 2561) นางเกศินี เชื้อเอี่ยมพันธ์ ครูแนะแนว โรงเรียนเรณูวิทยานุกูล อ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมด้วย นางเกตุวดี ยะสะกะ ครูแนะแนว นางศุทธินี หล้ามุงคุณ ครูที่ปรึกษา ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบให้การช่วยเหลือครอบครัว เด็กหญิงศิริพร มีพรหม หรือ น้องจอย อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่106 หมู่ 10 บ้านเนินน้ำคำ ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งเป็นนักเรียนดีเด่น ทั้งด้านกิจกรรม ความประพฤติเรียบร้อย ที่สำคัญมีผลการเรียนดีเด่นอันดับ 1 ของโรงเรียน แต่ประสบปัญหาทางสังคม ฐานะยากจน

น้องจอย อาศัยอยู่ในบ้านพักเป็นเพิงไม้เก่า โดยมียาย และน้องอีก 2 คน ที่ต้องคอยดูแล หลังคณะครูของโรงเรียนเดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้าน เนื่องจากเป็นนักเรียนใหม่ที่พึ่งเข้ารับการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทำให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่สุดแสนรันทด จนกระทั่งมีผู้ใจบุญ นำภาพถ่ายและข้อมูลมาเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เพื่อวิงวอนหาทางช่วยเหลือ ห่วงอนาคตการศึกษา เนื่องจากงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐไม่เพียงพอในการดูแลช่วยเหลือ

โดยจากการตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ พบว่า น้องจอย อาศัยอยู่กับยาย คือ นางสุเพียร ศรีครานุรักษ์ อายุ 62 ปี มาตั้งแต่เกิด เนื่องจากคุณตาเสียชีวิตเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนพ่อแม่ ยากจน ดิ้นรนต่อสู้ไปทำงานต่างจังหวัด ตั้งแต่น้องจอยเกิดได้ปล่อยไว้ให้ยายเลี้ยงมาตลอด เพราะมีปัญหาครอบครัว นอกจากนี้ยังมีน้องอีก 2 คน ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เป็นเด็กชาย อายุ 8 ขวบ และเด็กหญิง อายุ 5 ขวบ ที่ต้องคอยดูแลทั้งความเป็นอยู่และเรื่องค่าใช้จ่าย ในชีวิตประจำวัน รายได้มาจากคุณยายไปรับจ้างทั่วไป ทอผ้า แต่พักหลังสภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต้องอาศัยน้องจอยไปรับจ้างทำงานทั่วไป รับจ้างดำนา มาซื้อข้าวกิน และนำเงินใช้จ่ายไปโรงเรียน บางวันไม่มีเงินต้องอดมื้อกินมื้อ อาหารกินตามยถากรรม และเพื่อนบ้านบริจาคช่วยเหลือมา ส่วนใหญ่กินต้มไข่ ไข่เจียว ปลาร้า น้ำปลา ตามสภาพ พอประทังชีวิต

ที่สำคัญสภาพบ้านความเป็นอยู่ทำให้คณะครูที่ปรึกษาไปเยี่ยมบ้านถึงกับน้ำตาร่วง เพราะไม่คิดว่าจะรันทดยิ่งกว่าในละคร เนื่องจากอาศัยอยู่ในเพิงพัก ทำจากเศษไม้ และสังกะสีเก่า ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างให้พอได้หลับนอน หากฝนตกหนัก ลมแรง ต้องหาที่หลบฝนเพราะหลังคารั่ว ส่วนเครื่องใช้ในครัวเรือน ใช้ตามที่มีอยู่และหามาได้ นอกจากนี้สภาพห้องน้ำส้วมทำจากผ้าใบ เวลาเข้าขับถ่ายจะต้องเอาผ้าใบปิดคลุมไว้ ส่วนห้องอาบน้ำใช้ลานกลางแจ้ง โดยก่อนนี้ทาง อบต.โคกหินแฮ่ ร่วมกับชาวบ้านเคยเข้ามาดูแลช่วยเหลือ แต่งบประมาณไม่เพียงพอ

ด้าน นางเกศินี เชื้อเอี่ยมพันธ์ ครูแนะแนว โรงเรียนเรณูวิทยานุกูล อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับชีวิตน้องจอย ถือว่าลำบากมาก ตั้งแต่เกิดต้องสู้ชีวิต อยู่กับยาย แต่ต้องยอมรับว่า จากประวัติเป็นดีที่มีความประพฤติเรียบร้อย เป็นเด็กกตัญญู ต้องคอยดูแล ทำงานรับจ้าง ทำงานบ้าน ช่วยยาย และต้องดูแลน้อง อีก 2 คน ที่สำคัญพบว่าก่อนนี้ช่วงเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านนาโดนใหม่ ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เป็นเด็กที่มีผลการเรียนดีเด่นอันดับ 1 ของโรงเรียน มีผลการเรียนเกรดเฉลี่ย 3.98 จบปีการศึกษาในปี 2560 ที่ผ่านมา และทำการสอบแข่งขันมาศึกษาต่อในโรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูลซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังของอำเภอ ในปีการศึกษานี้

ก่อนนี้คณะครูไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อน เรื่องสภาพความเป็นอยู่ แต่โรงเรียนได้มีโครงการเยี่ยมบ้านทุกคน เพื่อประเมินด้านต่างๆ ของนักเรียน จนกระทั่งมาพบครอบครัวน้องจอย แทบรับไม่ได้ ไม่คิดว่าจะอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำให้ห่วงคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย เพราะเป็นผู้หญิงและกำลังโตเป็นวัยรุ่น เบื้องต้นทางคณะครูได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือ แต้มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ส่วนหนึ่งต้องอาศัยจากผู้ใจบุญ ผู้มีใจเมตตา มาช่วยกันดูแลช่วยเหลือ สำคัญอยากได้ที่พักอาศัยพัฒนาคุณภาพชีวิต และทุนการศึกษา โดยได้มีการจัดตั้งกองทุนขอรับบริจาคความช่วยเหลือ สามารถบริจาคได้ผ่านบัญชี กองทุนการศึกษา เพื่อเด็กหญิงศิริพร มีพรหม เลขที่บัญชี 435-041-462-2 ธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอเรณูนคร หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 088-281809 หรือ 095-670-4429

ครูเกศินี  เผยอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่โตมาจำความได้ น้องจอยรู้ว่าชีวิตตัวเองลำบาก บางทีท้อแต่สงสารยายกับน้อง เข้าใจพ่อแม่ ที่ให้ยายเลี้ยง เพราะความยากจน แต่ตนพอใจที่จะอยู่ดูแลยาย ช่วยงานทุกอย่างที่ทำได้ ทั้งรับจ้างทำงาน รวมถึงทำงานบ้าน ทำอาหาร สอนหนังสือน้องอีก 2 คน เพราะคุณตาเสียชีวิตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไม่มีคนหาเงินช่วย แต่ต้องสู้ เพื่อยาย สิ่งเดียวที่ทำได้คือ คิดเสมอว่าจะเป็นคนดีของสังคม ต้องตั้งใจเรียน มีอนาคตมีงานที่ดี อยากมีอาชีพเป็นครู เพราะอยากสอนให้คนเป็นคนดี ชอบการเรียนหนังสือ คิดเสมอว่าวันหนึ่งอยากมีอาชีพการงานที่ดี อยากมีบ้านใหม่ให้ยาย น้องๆ ได้อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

ส่วน นางสุเพียร ศรีครานุรักษ์ อายุ 62 ปี ยายของน้องจอยเล่าถึงความรันทดทั้งน้ำตาว่า ชีวิตลำบากมาก เดิมค้าขาย พอมีเงินมีรายได้ รับจ้างทั่วไป ไม่มีที่นา เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว หลังแม่น้องจอยซึ่งเป็นญาติ เป็นลูกหลานไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ คลอดน้องจอยออกมาได้ 7 วัน มีปัญหาครอบครัว ยากจน ไม่พร้อมดูแล ตนสงสารจึงนำมาเลี้ยงดู ตั้งแต่อายุได้ 7 วัน จากนั้น พ่อกับแม่น้องจอย ต่างดิ้นรนไปทำงานต่างจังหวัด ติดต่อมาดูแลบ้างตามสภาพ เพราะลำบาก

ส่วนตนมีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 35 ปี คนสุดท้อง อายุ 33 ปี แต่ต้องดิ้นรนไปทำงานต่างจังหวัด พอเลี้ยงชีวิต ไม่สามารถมาดูแลตนได้ ชีวิตลำบากมากขึ้นหลังสามีตายไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ต้องดูแลหลานถึง 3 คน เพราะมีหลานชาย 8 ขวบ หลานสาวอีกคน 5 ขวบ ที่เป็นลูกของ ลูกชายคนสุดท้อง ครอบครัวแตกแยก ตนจึงนำมาเลี้ยงไว้ อาศัยตามสภาพ มีบ้านเป็นเพิงพักจาก ชาวบ้าน ช่วยกันมาซ่อมแซมปรับปรุงให้อยู่ พอได้หลบแดดฝน โชคดีมีน้องจอยคอยดูแล ทำงานรับจ้าง ช่วยงานบ้านมาตลอด บางทีท้อแต่เห็นหน้าหลานแล้ว ต้องสู้ ญาติพี่น้องไม่มีใครช่วยได้ หวังเพียงหลานมีอนาคตนอนตายตาหลับ ภูมิใจตลอดน้องจอยเรียนหนังสือเก่ง และเป็นเด็กกตัญญู และปีที่ผ่านมาโรงเรียนบ้านนาโดนใหม่ได้มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นให้ เมื่อปี 2560 มาถึงวันนี้สิ่งที่ต้องการที่สุดคือ อยากให้หลานได้เรียนหนังสือ อยากให้มีอนาคต ส่วนตนลำบากแค่ไหนทนได้ เพียงหลานทั้ง 3 คนสบาย

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ ครูเยี่ยมบ้านน้ำตาร่วง "น้องจอย" เด็กเรียนดีอันดับ 1 สภาพสุดรันทด-กตัญญูสู้ชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook