เปิดใจ "พลเมืองดี" ลากผู้หญิงออกจากเก๋งไฟไหม้ วินาทีนั้นไม่กลัวตาย

เปิดใจ "พลเมืองดี" ลากผู้หญิงออกจากเก๋งไฟไหม้ วินาทีนั้นไม่กลัวตาย

เปิดใจ "พลเมืองดี" ลากผู้หญิงออกจากเก๋งไฟไหม้ วินาทีนั้นไม่กลัวตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากเหตุการณ์รถเก๋ง เกิดเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนพลิกคว่ำ และมีไฟลุกไหม้ตัวรถยนต์ ระหว่างนั้นได้มีผู้หญิงวัยรุ่นคลานออกมาจากตัวรถ โดยมีพลเมืองดีช่วยลากออกมาห่างจากตัวรถประมาณ 10 เมตร และมีชายวัยกลางคนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมี 2 สามีภรรยา วิ่งไปช่วยอุ้มเด็กเล็ก 2 คน ออกมาจากตัวรถ ก่อนที่รถจะเกิดไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน ซึ่งมีชาวโซเชียลเข้าไปดูคลิปและคอมเมนต์ชื่นชมพลเมืองดีเป็นจำนวนมาก 

วินาทีชีวิต พลเมืองดีดึงร่างผู้หญิง-เด็ก 2 คน ออกจากซากเก๋งไฟลุกท่วม

ล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวได้พบตัว นายอุดมเดช ประเสริฐชัยโชคดี อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และเจ้าของคลิป ได้รับการเปิดเผยว่า ขณะนั้นตนเองได้ขับรถออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่ อ.ปากช่อง ระหว่างทางก็พบอุบัติเหตุดังกล่าว จึงได้จอดรถข้างทาง แล้ววิ่งเข้าไปเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามสัญชาติญาณของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งขณะนั้นมีคนเข้าไปช่วยเหลือเด็กเล็ก 2 คน ออกมาจากรถแล้ว รวมทั้งชายคนขับรถ ส่วนตนเองเห็นว่ามีหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างรถ และร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะเดียวกันไฟก็กำลังเริ่มจะลุกไหม้รถทั้งคัน จึงได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่เห็นว่าหญิงสาวคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บขาหัก จึงไม่กล้าที่จะอุ้มออกมา เพราะเกรงว่าจะกระทบแผลที่ขา ครั้นจะปล่อยไว้ก็กลัวว่ารถจะเกิดระเบิด ทำให้คนเจ็บได้รับอันตรายถึงชีวิต จึงได้ตัดสินใจลากสาวคนดังกล่าวออกมาห่างจากตัวรถประมาณ 10 เมตร เพื่อให้พ้นเขตอันตราย โดยที่ขณะนั้นไม่ได้คิดกลัวอันตรายใดๆ คิดอย่างเดียวคือต้องช่วยเหลือคนเจ็บออกมาให้ได้ ก่อนที่จะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ และได้บอกกับหญิงสาวคนดังกล่าวว่าให้นอนนิ่งๆ ไว้ก่อน รอให้ทีมแพทย์มาช่วยปฐมพยาบาล

นอกจากนี้ตนก็ได้วิ่งไปถ่ายคลิปคู่สามีภรรยา ที่เป็นฮีโร่เสี่ยงอันตราย เข้าไปช่วยเหลือชีวิตเด็กเล็กทั้ง 2 คน ออกมาจากตัวรถไว้ได้หวุดหวิด ก่อนที่รถจะเกิดไฟไหม้วอดทั้งคั้น และนำคลิปไปเผยแพร่ให้ชาวโซเชียลได้เห็นเหตุการณ์ พร้อมกับชื่นชมสองสามีภรรยาที่เสี่ยงชีวิตช่วยเด็กทั้ง 2 คนด้วย

นายอุดมเดช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะประสบเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนก็เคยไปประสบเจอเหตุการณ์อุบัติเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปีก่อนที่ถนนมิตรภาพ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุรถเก๋งพลิกคว่ำ แล้วตนก็ไปช่วยเหลือหญิงสาวที่ติดอยู่ในรถ ส่วนอีกเหตุการณ์เป็นอุบัติเหตุบนถนนสาย 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำเช่นเดียวกัน ซึ่งตนก็หยุดรถเข้าไปช่วยเหลือคนที่อยู่ในรถ

ทั้งนี้ ตนก็อยากฝากเตือนผู้ขับขี่ทุกคนให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถทุกครั้ง เพราะหากร่างกายไม่พร้อมหรือประมาทก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับตัวเอง และผู้อื่นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook