เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจาก จ.พิษณุโลก เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.อุตรดิตถ์ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ซึ่งแทนที่จะโฟกัสไปที่แหล่งท่องเที่ยวของ จ.อุตรดิตถ์ ที่มีอยู่หลายแห่งทั้งโบราณสถานโบราณวัตถุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวอุตรดิตถ์ หรือตลอดจนผลไม้อาหารหลายชนิดที่ขึ้นชื่อของ จ.อุตรดิตถ์
แต่นักท่องเที่ยวรายนี้กลับถ่ายภาพสายไฟฟ้าและสายเคเบิลที่พาดอยู่กับสายเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ.อุตรดิตถ์ ที่มีลักษณะพันกันให้มั่ว ไม่รู้ว่าสายอะไรเป็นสายอะไร พร้อมทั้งมีแค็ปชั่นว่า “โอ้แม่เจ้า นี่หรือเมืองไทย อยู่พิษณุโลกบ้านเราไม่เคยเจอพอดีมาอุตรดิตถ์ เห็นแบบนี้ตลอดสายเลย เขาไม่คิดจะทำให้ดีขึ้นเลยหรือ”
หลังนักท่องเที่ยว จ.พิษณุโลก รายนี้นำมาโพสบนเฟซบุ๊กแล้ว ปรากฏว่า พนักงานของเทศบาลเมือง (ทม.) อุตรดิตถ์รายหนึ่งก็นำภาพและโพสต์ดังกล่าวมาลงในห้องข่าวของชาว จ.อุตรดิตถ์ ต่างมีสมาชิกในเฟซบุ๊กจำนวนมากพากันวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตำหนิการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ไม่ยอมดูแล ปล่อยปะละเลยให้เป็นทรรศนะอุจาดตาอย่างมาก
บางรายก็โพสต์ขึ้นมาในเชิงสนุกสนานว่า ภาพสายไฟฟ้าและสายเคเบิลลักษณะดังกล่าวนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า “โชว์!ครับว่าอุตรดิตถ์บ้านเรา IT เจริญมั๊กๆ สามารถสร้างใยกับเสาไฟทุกต้น ถนนทุกเส้น ไม่เว้นแม้หน้าจวนฯ หรือบ้านพักผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์”
นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่จะต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินโครงการดังกล่าวคือ กฟภ.อุตรดิตถ์ จะปัดหรือโยนความรับผิดชอบไปให้หน่วยงานเจ้าของสายเคเบิลไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นเจ้าของเสาไฟฟ้า และเสาไฟฟ้าก็เป็นสมบัติของ กฟภ.ด้วย ไม่ควรอ้างว่า ไม่มีงบประมาณหรือขาดทุน การพูดเช่นนี้ถือว่า เป็นการพูดที่ง่ายเกินไป
เท่าที่ตรวจสอบดูในแผนพัฒนาจังหวัด กฟภ.อุตรดิตถ์ ไม่เคยมีการเสนอหรือทำโครงการเข้ามาเพื่อบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว วันนี้จะต้องเริ่มนับหนึ่งและดำเนินการโดยทันที จะต้องทำโครงการเสนอเข้าสู่แผนพัฒนาจังหวัด หากเข้าสู่แผนแล้วก็จะต้องหางบประมาณ ซึ่งอาจจะเป็นงบประมาณกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ถ้าไม่ทำวันนี้บ้านเมืองก็จะสกปรกไม่เป็นระเบียบ ประชาชนก็จะเกิดอันตรายไปด้วย
“โครงการนำสายไฟฟ้าและสายเคเบิลลงใต้ดินนั้น ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งและสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการที่จะดำเนินการที่เทศบาลตำบล (ทต.) ศรีพนมมาศ อ.ลับแล จะนำสายไฟฟ้าลงดิน เพราะหากเป็นไปได้ ก็จะทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง
แม้งบประมาณ 112 ล้านบาท ที่จะดำเนินการโครงการจะถูกคืนไปยังสำนักงบประมาณแล้วก็ตาม แต่ได้ให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองอุตรดิตถ์ เร่งทำการสำรวจและออกแบบ และให้ กฟภ.อุตรดิตถ์ เป็นเจ้าภาพในการติดตามงบประมาณเข้ามาดำเนินโครงการนำสายไฟฟ้าและสายเคเบิลลงใต้ดินทั้งในพื้นที่ของ ทม.อุตรดิตถ์ และ ทต.ศรีพนมมาศ ทุกหน่วยต้องร่วมมือกันงานถึงจะสำเร็จลงได้” นายเสฐียรพงศ์ กล่าว