เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 พ.ต.ต.พิรชัช ปากเพรียว สว.สส.สภ.เมืองลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมกับตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายอลงกรณ์ หรือบิว อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครลำปางจำนวนกว่า 10 จุด
หลังจากเมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 61) ได้ทำการจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าในเขตบ้านดง ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ และพระเครื่อง จำนวนกว่า 144 รายการ
โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.มานพ ภุชชงค์ ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง และ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฎิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามจับตัวผู้ต้องหา หลังจากเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุขโมยสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาทและพระเครื่องเลี่ยมทองของผู้เสียหายที่มีอาการเมาและนอนหลับหมดสติ อยู่บริเวณด้านหน้าอาคารพาณิชย์ตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิคลำปาง ถ.ท่าคราวน้อย อ.เมือง จ.ลำปาง
จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิด ทราบว่า คนร้ายเป็นชายลักษณะตุ้งติ้งคล้ายผู้หญิง ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ไม่ติดป้ายทะเบียน มาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการลงพื้นที่หาข่าวและสืบสวนเชิงลึกจนทราบตัวคนร้ายว่าได้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว จึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดลำปางออกหมายจับและทำการจับกุมตัวได้ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนและแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทราบว่าผู้ต้องหามีอาชีพเป็นนักร้องรับจ้าง ร้องตามงานต่างๆ และสถานบันเทิงทั่วไปในตัวเมืองลำปาง ซึ่งจะก่อเหตุในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป โดยจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนไปตามถนนท่าคราวน้อย ถนนฉัตรไชย รวมถึงลานจอดรถต่างๆ ใกล้กับสถานบันเทิง ชื่อดังต่างๆ
ซึ่งจะตระเวนหาคนที่ออกมาเที่ยวกลางคืนแล้วมีอาการเมาและจอดรถหลับข้างทาง โดยจะทำการเรียกดูก่อน ถ้าผู้เสียหายเมาหมดสติหลับไม่รู้เรื่องก็จะทำการปลดสร้อยคอทองคำออกและพระเครื่องทันที เช่น หลวงปูทวด และ เหรียญพระเครื่องชื่อดังต่างๆ และหลบหนีไป ก่อนจะนำสร้อยที่ขโมยมาไปขายที่ร้านทองในห้างสรรพสินค้าและนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายและเล่นแชร์ และบางช่วงหมุนเงินไม่ทัน จึงออกมาก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้ต้องหายังได้รับสารภาพว่า ที่ผ่านมาได้ลงมือก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 9 ครั้ง ในเขตพื้นที่ อ.เมืองลำปาง รวมถึงเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 60 ที่ก่อเหตุลักสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ของผู้เสียหายที่บริเวณด้านหน้าเต้นท์รถใกล้แยกไฟแดงป่าขาม และเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 60 ได้ก่อเหตุลักสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ของผู้เสียหายที่บริเวณด้านหน้าปั้มแก๊สแอลพีจีใกล้แยกห้วยเป้งอีกด้วย
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ
