ไม่รู้เลยว่าร้านไฟไหม้ จนกู้ภัยเคาะเรียก 5 ชีวิตนอนชั้น 3 รอดหวุดหวิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (5 พ.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ร้านรับติดตั้งแก๊สรถยนต์และรถพลังงานไฟฟ้า ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปทุมธานี จำนวน 5 คัน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง และอุปกรณ์แสงสว่างรุดไปที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง ปลูกติดกัน 3 คูหา พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากมาชั้นที่1 ซึ่งมีรถยนต์จอดอยู่ภายในจำนวน 3 คัน

เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจทำลายประตูเหล็กม้วน เพื่อเข้าไปดับเพลิงที่อยู่ระหว่างลุกไหม้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์ ทะเบียน กต-5517 ปทุมธานี ที่ดัดแปลงเป็นรถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งติดตั้งแผงโซลาเซลล์ด้านบนหลังคา และเสียบปลั๊กไฟชาร์ตทิ้งไว้กับเต้ารับไฟบ้านอย่างรุนแรง บริเวณฝากระโปรงหน้ารถ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดรถยนต์ จำนวน 2 คัน ที่จอดอยู่ติดกัน รวมทั้งตัวอาคาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จะสามารถขึ้นไปเคาะห้องพักด้านบนชั้น 3 จนสามารถช่วยเหลือ นายไพศาล อายุ 65 ปี ผู้เป็นเจ้าของกิจการ พร้อมภรรยา ลูก 2 คน และช่างอีก 1 คน ลงมาจากห้องพักได้อย่างปลอดภัย

จากการสอบถาม นายไพศาล เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและภรรยาลูกนอนอยู่ด้านบนโดยที่ช่างนอนอีกห้องหนึ่ง ไม่ทราบว่าเกิดเพลิงไหม้บริเวณชั้น 1 เลย เพราะห้องเก็บเสียง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยขึ้นไปเคาะห้องเรียก จึงทราบว่าเกิดเพลิงไหม้

เบื้องต้น สันนิษฐานว่าเกิดการกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเมื่อช่วงเย็นตนเองชาร์ตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากับปลั๊กไฟบ้านทิ้งไว้ โดยยืมเครื่องชาร์ตของเพื่อนมา เพราะของตนเองชำรุดอยู่ระหว่างส่งไปตรวจเช็คที่ต่างประเทศ และเป็นการชาร์ตครั้งแรก

สันนิษฐานว่าเมื่อชาร์ตแบตเต็มแล้วแต่ระบบเครื่องชาร์ตไม่ตัดไฟ ทำให้กระแสไฟฟ้าในแบตมากขึ้นจนเกิดการช็อต ก่อนเกิดเพลิงลุกไหม้ ทั้งนี้ ค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ปฤกษา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้กั้นสถานที่เกิดเหตุไว้เพื่อรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุ รวมทั้งสอบปากคำผู้เป็นเจ้าของกิจการ เพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป