เปิดใจครั้งแรก "คนขับรถกู้ภัย" เสียใจที่สุดในชีวิต เตรียมบวชอุทิศให้ "น้องมด"

เปิดใจครั้งแรก "คนขับรถกู้ภัย" เสียใจที่สุดในชีวิต เตรียมบวชอุทิศให้ "น้องมด"

เปิดใจครั้งแรก "คนขับรถกู้ภัย" เสียใจที่สุดในชีวิต เตรียมบวชอุทิศให้ "น้องมด"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางสาวมาริษา วิลัยกรวด หรือน้องมด อายุ 22 ปี อาสาสมัครฝึกหัด หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ที่ประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิต ขณะออกปฏิบัติไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารเสียหลักตอร่องกลางถนน เหตุเกิดในเขต อ.ปักธงชัย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้น นางสาวมาริษา หรือน้องมด ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับรถกู้ชีพ อาสาสมัคร ฮุก 31 แต่เกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้ > เผยคลิปวินาทีสุดท้าย "น้องมด" สาวกู้ภัยดับ เพราะรีบไปช่วยรถบัสคว่ำ

ล่าสุด วันนี้ (2 พ.ค. 61) นายวิโรจน์ ทิพย์สันเทียะ อายุ 55 ปี คนขับรถพยาบาลกู้ชีพคันที่ประสบอุบัติเหตุ ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ตนยังรู้สึกเสียใจ ที่ต้องมาสูญเสียน้องมด ซึ่งเป็นอาสาสมัครจิตอาสาที่มาช่วยงานกู้ภัยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และยังเป็นความฝันของน้องมด ที่ตลอดระยะเวลา 1 เดือนมาช่วยงานกู้ภัย ได้บอกกับตนและอาสาสมัครหลายคน ว่าอยากกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนีในระดับที่สูงขึ้น โดยจะนำประสบการณ์ในช่วงที่มาเป็นอาสาสมัคร ฮุก 31 ไปปรับใช้ที่ประเทศเยอรมนี

ซึ่งวันที่มีการรดน้ำศพน้องมด ตนยังอยากไปร่วมพิธีรดน้ำศพไว้อาลัยครั้งสุดท้าย แต่เนื่องจากตนก็ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง และยังนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโคราชเมโมเรียล แพทย์เพิ่งอนุญาตให้ออกมาพักฟื้นวันนี้ โดยหลังจากนี้ คงจะเข้าไปกราบขอขมาต่อหน้าศพน้องมดและครอบครัว รวมถึงจะขออนุญาตครอบครัวน้องมด เพื่อบวชหน้าไฟให้กับน้องมด ในวันประกอบพิธีฌาปนกิจศพ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับน้องมดอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการดำเนินคดีทางกฎหมาย นายวิโรจน์ ทิพย์สันเทียะ คนขับรถพยาบาลกู้ชีพ คันที่เกิดอุบัติเหตุ ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา จากทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปักธงชัยแล้ว โดยมีการแจ้งข้อหาว่า ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ชีวิต โดยนายวิโรจน์ ก็ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะได้สรุปสำนวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook