ทีมแพทย์เผยอาการ "โจอี้ บาซู" พบสมองซีกซ้ายตาย คนไข้ยังรู้สึกตัว อาการทั่วไปคงที่

ทีมแพทย์เผยอาการ "โจอี้ บาซู" พบสมองซีกซ้ายตาย คนไข้ยังรู้สึกตัว อาการทั่วไปคงที่

ทีมแพทย์เผยอาการ "โจอี้ บาซู" พบสมองซีกซ้ายตาย คนไข้ยังรู้สึกตัว อาการทั่วไปคงที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยังคงเป็นที่สนใจของแฟนๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับอาการป่วยจากโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ของ "นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต" หรือ  "โจอี้ บาซู" วัย 49 ปี อดีตสมาชิกวงดนตรีชื่อดังในยุค 90's เจ้าของเพลงฮิต "โธ่เอ๊ย", "ทำไมถึงทำกับฉันได้", "รักน้องพร", "ผีฟ้าปาร์ตี้" ฯลฯ

ส่งผลให้ตอนนี้เจ้าตัวมีอาการอ่อนแรงของแขนขาครึ่งซีกด้านขวาและสื่อสารได้ไม่ชัดเจน เนื่องจากเนื้อสมองบางส่วนเสียหาย

>>>"โจอี้ บาซู" เส้นเลือดในสมองตีบ ป่วยอัมพาตซีกขวาหยุดนิ่ง แพทย์ชี้หายเป็นปกติยาก

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (30 เม.ย.) คณะแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย "พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค" ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านบริหารทางการแพทย์, "แพทย์หญิงอาทิตา ชูหลำ" แพทย์เฉพาะทางระบบประสาท, "แพทย์หญิงธนิศรา เรืองพัฒนาวิวัฒน์" แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และ "นายแพทย์เกรียงไกร ถวิลไพร" แพทย์เฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเชิญสื่อมวลชนร่วมอัปเดตอาการป่วยล่าสุดของ โจอี้ บาซู โดยเปิดเผยว่า

นายแพทย์สันติ  "คนไข้เป็นคนไข้ที่มีสิทธิ์ 30 บาท ของโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นมีคนนำตัวส่งโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี จากนั้นส่งต่อที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญาเนื่องจากคนไข้มีสิทธิ์ 30 บาท คนไข้มาด้วยอาการแขนขาข้างขวาอ่อนแรง พูดสื่อความหมายไม่ได้ แพทย์ที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญาได้ทำการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และสงสัยว่าจะมีสมองตายเฉียบพลันจากการขาดเลือดไปเลี้ยง จึงได้ดำเนินการรักษาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน และระหว่างการรักษาเริ่มมีไข้ ซึ่งมีการรักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อ รวมถึงทำกายภาพบำบัดคนไข้"

"กระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 27 เมษายน คนไข้แจ้งความต้องการจะย้ายมาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จากนั้นจึงได้มีการติดต่อโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาให้ส่งตัวคนไข้มา หลังจากที่คนไข้ย้ายมาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตอนนั้นคนไข้รู้สึกตัวดีพอสมควร ไข้เริ่มจะลงแล้ว คุยพอรู้เรื่อง จากนั้นแพทย์ได้ทำเอ็มอาร์ไอซ้ำ ก็พบว่ายังมีสมองส่วนที่ตายข้างซ้ายอยู่ แต่ว่าตอนนั้นไข้เริ่มลงแล้ว แพทย์ก็ได้ให้ยาฆ่าเชื้อต่อเหมือนกัน"

"สำหรับการวางแผนการรักษาก็จะเป็นเหมือนคนไข้ที่มีเนื้อสมองตาย ซึ่งก็ต้องรอดูว่าคนไข้จะมีอาการมากขึ้นหรือน้อยลงอีกทีหนึ่ง โดยจะใช้เวลาประเมินคนไข้ประมาณ 3 เดือน ในช่วงนี้ก็ดูอาการต่อ รวมถึงให้ทำกายภาพควบคู่ไปด้วย ฟื้นฟูร่างกายและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่อไป"

แพทย์หญิงอาทิตา  "เบื้องต้นคนไข้มีอาการหลอดเลือดสมองขาดเลือด ซึ่งต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่ว่าในเบื้องต้นคือดูเรื่องของเอ็มอาร์ไอ และเห็นว่ามีเส้นเลือดสมองขรุขระ หลอดเลือดตีบจริง คนไข้มีภาวะไขมันสูง ซึ่งก็สามารถอธิบายอาการได้ในส่วนหนึ่ง แต่ว่าในภาวะอื่นๆ ต้องติดตามรอดูอาการ และหาสาเหตุต่อไปว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือเปล่า"

คนไข้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นอัมพาตไหม ?

แพทย์หญิงอาทิตา  "ถ้าเอาตามอาการจริงๆ ตอนนี้ก็เป็นลักษณะของการอ่อนแรงของแขนขาครึ่งซีกด้านขวา ส่วนเรื่องของการสื่อสาร ด้วยความที่เนื้อสมองเสียตรงด้านที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร คนไข้เลยยังสื่อสารได้ไม่ชัดเจน คือเสียในเรื่องของการควบคุมการพูด การควบคุมของแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกซีกขวา สำหรับแนวโน้มในการรักษา ตั้งแต่เริ่มที่คนไข้มาถึงเรา คนไข้ก็มีอาการอ่อนแรงเท่านี้อยู่แล้ว ซึ่งยังคงเท่าเดิม แต่ที่ดีขึ้นคือไข้ลดลงแล้ว"

"อย่างอื่น ณ ตอนนี้ยังไม่เจอภาวะแทรกซ้อนอะไรที่รุนแรง และอาการค่อนข้างคงที่จากที่คนไข้เข้ามารับการรักษาได้ประมาณ 3-4 วัน ส่วนอาการเดิมคือเป็นอาการทางด้านหลอดเลือดสมอง จากปกติที่น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ถือว่าอาการคงที่ แต่คงต้องดูแลในระยะยาวต่อไป เพราะเรื่องสมองเมื่อเห็นว่าอาการคงที่ก็จะเน้นฟื้นฟูมากกว่า ฟื้นฟูในด้านการทำกายภาพ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา"

"โอกาสที่จะกลับไปหายปกตินั้น ตรงนี้หมอคงตอบไม่ได้ชัดเจน คงดูในรายละเอียดแต่ละช่วงไป ภาวะตอนนี้เพิ่งเป็น ต้องรอดูว่าเขาฟื้นฟูสภาพได้มากน้อยแค่ไหน อย่างโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด ต้องรักษาว่ามาจากสาเหตุใดเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ ไม่ได้รักษาว่าสมองเสียไปแล้ว แล้วไปทำให้เขาหาย แต่ป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำยังไง และฟื้นฟูเขายังไงมากกว่า ซึ่งคนไข้ให้ความร่วมมือดีในการรักษา"

การใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรคของคนไข้เป็นอย่างไรบ้าง ?

นายแพทย์สันติ  "ทางโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาส่งสิทธิ์มาให้ ใช้สิทธิ์ 30 บาทต่อได้ที่นี่ อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินนิดหน่อย แต่ว่าสิทธิ์ตามมาเรียบร้อย"

ต้องประเมินอาการ 3 เดือน คือต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างเดียวใช่ไหม ?

แพทย์หญิงธนิศรา  "โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลนานถึง 3 เดือน เมื่อคนไข้อาการเริ่มคงที่และไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรก็สามารถให้คนไข้กลับบ้านได้ ส่วนการฝึกกายภาพบำบัดสามารถนัดมาเป็นครั้งเพื่อที่จะฟื้นฟู เพื่อที่ให้การบ้านให้กลับไปทำที่บ้าน แต่ถ้าบางรายมีภาวะแทรกซ้อนก็อาจจะอยู่ต่อ ซึ่งตอนนี้คนไข้อยู่ในช่วงรอดูอาการและหาสาเหตุค่ะ"

นายแพทย์สันติ  "การอยู่โรงพยาบาลนานๆ จะมีปัญหาเรื่องการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อในโรงพยาบาลจะเป็นเชื้อที่ค่อนข้างแรงกว่าที่อื่น ฉะนั้นถ้าคนไข้สามารถกลับบ้านได้หมายถึงในแง่ของจิตใจด้วย คนไข้ที่อยู่ที่บ้านจะดีกว่าคนไข้ที่นอนโรงพยาบาลแน่นอน"

อาการป่วยที่คนไข้เป็นอยู่ตอนนี้ เกิดจากการเสพสารเสพติดด้วยหรือไม่ ?

แพทย์หญิงอาทิตา  "อันนี้เราคงไม่ได้ลงไปในแง่รายละเอียดของสารเสพติด แต่ในแง่ทั่วๆ ไปโรคนี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุอยู่แล้ว เราคงต้องดูแลไปตามอาการที่ตรวจพบ"

นายแพทย์เกรียงไกร  "ช่วงแรกๆ ที่อยู่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา คนไข้มีไข้ มีการสำลักทำให้ไข้ขึ้นและปอดอักเสบ แต่พอมาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ตั้งแต่แรกไข้ก็เริ่มหาย แพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อเมื่อวานนี้ ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีไข้อีก แนวโน้มก็ดี"

แพทย์หญิงอาทิตา  "ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารตอนนี้คนไข้มีปัญหาในด้านของการควบคุมกล้ามเนื้อในการกลืน รวมถึงการพูด ตอนนี้จึงยังไม่สามารถกินได้ด้วยตนเองทางปาก ต้องให้อาหารทางสายอยู่ เรื่องการสื่อสารอย่างง่ายๆ ได้ แต่ไม่เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนี้คงต้องรอการฟื้นฟู แต่คนไข้มีสติในแง่การ ตื่น รู้ตัว แต่ยังเสียด้านภาษาในการสื่อสารอยู่ ปกติมองโดยทั่วไปในเรื่องของหลอดเลือดสมองขาดเลือดก็เป็นอะไรที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินที่ค่อนข้างวิกฤติอยู่แล้ว แต่ละอาการช่วงนี้ผ่านไปสักระยะหนึ่งอาการเริ่มคงที่"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook