"สมชัย" อุ้มพระปางอภัยอำลา กกต. ย้ำปล่อยวาง ปัดทำสังคมสับสน

"สมชัย" อุ้มพระปางอภัยอำลา กกต. ย้ำปล่อยวาง ปัดทำสังคมสับสน

"สมชัย" อุ้มพระปางอภัยอำลา กกต. ย้ำปล่อยวาง ปัดทำสังคมสับสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'สมชัย' เก็บของใช้ส่วนตัวอำลาบทบาท กกต. อุ้มพระปางอภัย ยุนายกฯ เปลี่ยนหน่วยงานกฎหมายให้ข้อมูลผิด พร้อมเผยคำทำนายที่ 7 ในวงเสวนา 25 มี.ค.นี้

ช่วงบ่ายวันนี้ (23 มี.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เก็บของใช้ส่วนตัวที่ห้องทำงานภายในสำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ภายหลังหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจมาตรา 44 ปลดตัวเองพ้นจาก กกต. เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

>>> ['ประยุทธ์' งัด ม.44 เด้ง 'สมชัย' พ้น กกต. เหตุสัมภาษณ์สื่อไม่เหมาะสม] <<<

ทั้งนี้ นายสมชัย ได้อุ้มพระพุทธรูปปางอภัยทาน หรือ องค์จำลองหลวงพ่ออภัยวงศ์ องค์พระประธานจากวัดแก้วพิจิตร จ.ปราจีนบุรี พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า คำว่าอภัยทานนั้น หมายถึง เราอภัยให้กับทุกอย่าง ปล่อยวาง ไม่ถือโทษโกรธเคือง เป็นทานที่ใหญ่ที่สุด เพราะตลอดเวลาการทำงาน 4 ปีที่ผ่านมา อาจมีการกระทบกระทั่ง มีปัญหากับคน ดังนั้นเมื่อออกจากงานก็ต้องให้อภัย ออกไปด้วยจิตใจที่เบิกบาน ปล่อยวาง เป็นหลักการที่สำคัญของการทำงานที่ตนยึดถือมาตลอด ไม่ได้พูดถึงการเป็นอริกับใครทั้งสิ้น

หลังจากนี้จะพักงานสัก 1 เดือน และจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ถ้าทีวีช่องใดสนใจชวนไปร่วมรายการก็ยินดี เพราะตนจะสามารถพูด คิด หรือเขียน สิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และนำเสนอปัญหาภายในประเทศได้โดยไม่มีกรอบ ไม่เป็นโทษต่อใคร แต่ถ้าเรื่องที่เสนอนั้นจะขัดผลประโยชน์ คสช. แต่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ตนก็จะเลือกทำเพื่อบ้านเมือง

>>> [เหตุใด 'สมชัย ศรีสุทธิยากร' ถึงกลายเป็นอดีต กกต. ด้วยมาตรา 44] <<<

อดีต กกต.ที่ถูกปลดด้วยมาตรา 44 ยืนยันว่า จะไม่ยื่นร้องเรียนต่อศาลปกครอง หรือใช้ช่องทางใด ๆ เพื่อให้ตนเองกลับมา เพราะตอนนี้ตนมีความสุขแล้ว การรับหน้าที่เป็น กกต. เป็นภาระที่หนัก และเหนื่อย แต่ยืนยันว่าจะไม่ถอนตัวต่อการลงสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต. โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ

ส่วนตัวยอมรับการตัดสินใจของ คสช. แต่ คสช. ต้องพูดเหตุผลที่เป็นจริง เพราะสิ่งที่ตนพูดไปไม่ได้สร้างความสับสน หรือปลุกปั่นยุยงคนในสังคม แต่ข้อกล่าวหาที่แท้จริงคือการแสดงความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่ได้ผิดวินัยร้ายแรง ตนยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ครบ ส่วนตัวรักและเป็นห่วงนายกรัฐมนตรี ขออวยพรวันเกิดให้นายกฯ ทำงานประสบความสำเร็จ ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง แต่อยากให้เปลี่ยนหน่วยงานด้านกฎหมาย เพราะทำให้นายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจผิดไปจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 และมาตรา 103 พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำพูดว่า “ใคร ๆ ก็รักลุงตู่ครับ”

ทั้งนี้ นายสมชัย จะชี้แจงคำทำนายที่ 7 เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ 4 กกต. ที่เหลือ และการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง ในงานเสวนาวันอาทิตย์ที่ 25 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชนฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook