สื่อนอกชี้ 'เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย' ทับซ้อนพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าไทย-เมียนมา

สำนักข่าวเอบีซี ของออสเตรเลียเปิดเผยว่า การสร้างถนนทางหลวงในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต เป็นประธานกรรมการบริหาร และสร้างผ่านพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยและขยายพันธุ์ของเสือดำ โดยที่ผ่านมานักอนุรักษ์หลายราย และประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นรวมไปถึงกองทัพกะเหรี่ยง KNU ต่างแสดงความกังวลต่อโครงการดังกล่าว

'ธาน ซิน' ผู้อำนวยการสมาคมการพัฒนาทวาย ตัวแทนของคนในพื้นที่ กล่าวว่า มีความกังวลต่อการปฏิบัติของนายเปรมชัย เพราะแม้แต่กฎหมายในประเทศของเขายังไม่ปฏิบัติตาม แล้วเขาจะมาปฏิบัติตามกฎหมายของเมียนมาได้อย่างไร?

[มูลนิธิสืบฯ เร่งรัดสรุปสำนวนคดี "ล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ" อย่าเบี่ยงประเด็นสอบสวน]

 

"ถนนที่ทางอิตาเลียนไทยสร้างนั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และควรมีการผลักดันให้มีการขึ้นบัญชีดำกับอิตาเลียนไทย" ธาน ซิน กล่าว

 

เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเป็นโครงการที่อยู่ในการพัฒนาของบริษัทอิตาเลียนไทย ซึ่งจะมีถนนทางหลวงที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและเมียนมายาวถึง 150 กิโลเมตร เส้นทางดังกล่าวจะตัดผ่านเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตวป่าธนินทาริยา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเสือโคร่ง เสือดาว และเสือดำ รวมไปถึงช้างป่าเอเชีย เสือไฟ แมวลายหินอ่อน และหมี

'เฮนน่า เฮลซิงเจ่น' เจ้าหน้าที่กองทุนอนุรักษ์สัตว์ป่า (WWF) กล่าวว่า พื้นที่ป่าดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าเท่านั้น แต่เป็นผืนป่าที่เชื่อมต่อระหว่างไทยกับเมียนมาที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นพื้นที่ที่สัตว์ใหญ่ เช่น เสือและช้าง ใช้ในการขยายพันธุ์ หาอาหาร รวมไปถึงมีระบบนิเวศที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของสัตว์

สำนักข่าวเอบีซี ยังรายงานเพิ่มเติมว่า เส้นทางถนนที่จะถูกสร้างไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายนั้นจะเป็นแบ่งกั้นที่อยู่อาศัยของเสือออกเป็น 2 เขต และยังตัดผ่านเขตชุมชนในชนบทที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพกะเหรี่ยง KNU

ทั้งนี้ นักอนุรักษ์หลายคนได้เสนอให้มีการสร้างถนนหรืออุโมงค์สำหรับสัตว์ป่าเพื่อลอดทางหลวงที่จะตัดผ่านผืนป่าของโครงการเศรษฐกิจพิเศษทวายให้สัตว์ชนิดต่าง ๆ สามารถเดินข้ามไปมาหากันได้ เหมือนอุโมงค์สัตว์ป่าข้ามทางหลวงในเส้นทาง 304 ที่บริษัทอิตาเลียนไทยได้ก่อสร้างเพื่อเชื่อมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นต้น