ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า แถลงยืนยัน เจ้าสัวเปรมชัย ไม่ใช่แขกของตัวเอง

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า แถลงยืนยัน เจ้าสัวเปรมชัย ไม่ใช่แขกของตัวเอง

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า แถลงยืนยัน เจ้าสัวเปรมชัย ไม่ใช่แขกของตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ก.พ.) นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงข่าวการจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยฯ และไม่ได้เป็นแขกพิเศษตามที่ถูกกล่าวอ้าง ระบุตัวเองได้รับโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแจ้งความประสงค์ก่อนล่วงหน้าที่จะเข้าพื้นที่ โดยแจ้งว่าจะเข้าไปกางเต็นท์ เพื่อศึกษาธรรมชาติ

โดยจะเดินทางเข้าไปพื้นที่ จำนวน 4 คน มีการสอบถามว่าหากจะเข้าไปพักในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรต้องทำอย่างไร ก็ได้บอกข้อมูลเบื้องต้นและประสานไปยังหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ตะวันตก ซึ่งก็เป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติ คือมีการทำหนังสือขออนุญาตตามขั้นตอนปกติ

และขอยืนยันว่าไม่ใช่แขกของตนเองตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะทำทุกอย่างตามขั้นตอน การจะอนุญาตเข้าพักได้หรือไม่ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีอำนาจตัดสินใจ และตามขั้นตอนจะต้องแจ้งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี (สบอ.3) ด้วย

ขณะที่ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยอมรับว่า เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้บริหารอิตาเลียนไทยขอเข้าไปเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป ไม่ใช่แขกวีไอพีของใคร โดยเฉพาะคนในกรมอุทยานฯ เมื่อมีการขอเข้าไปตามปกติ จึงไม่ได้ตรวจค้นรถหรืออาวุธ

พอเข้าไปกางเต็นท์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามกางเต็นท์ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบและพบหลักฐานตามที่เป็นข่าว ยืนยันว่า ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ตำรวจ ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์พิเศษเหนือใคร แต่หลังจากนี้คงต้องคุมเข้มในเรื่องการตรวจสอบคนเข้าพื้นที่หวงห้ามมากขึ้น

ขณะที่ นายธรรมรัตน์ วงศ์โสภา รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง ที่เดินทางลงพื้นที่มาดูแลคดีนี้ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการขออนุญาตเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พบว่า ทางกลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้มีการทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่จริง

แต่ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ยังไม่ได้ดำเนินการอนุญาต เนื่องจากทางกลุ่มผู้ขออนุญาตนั้น ได้ยื่นเรื่องมาในวันศุกร์ที่ 2 ก.พ. และจะขอเข้าพื้นที่ในวันเสาร์ที่ 3 ก.พ. แต่เนื่องจากเอกสารมีไม่ครบและขาดข้อมูลที่สำคัญหลายส่วน ประกอบกับการขออนุญาตทำในระยะเวลากระชั้นชิด ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 จึงยังไม่ได้ออกหนังสืออนุญาตแต่อย่างใด

ซึ่งการจะเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่านั้น จะต้องมีการปฏิบัติตัวตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เมื่อผู้ที่เข้าไปแล้วไม่ปฏิบัติตามกฎก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนที่มีหลายคนตั้งคำถามถึงเรื่องของอาวุธปืน ที่ทางกลุ่มดังกล่าวนำเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ว่านำเข้าไปได้อย่างไรนั้น ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวลักลอบนำเข้าไปในเส้นทางอื่นหรือไม่ หรือเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการตรวจสอบในจุดทางเข้าปล่อยปละละเลยหรือไม่ ทั้งนี้ ก็คงจะต้องขอเวลาในการตรวจสอบอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook