ลุงป้าน้ำตาไหล เพจดังยื้อชีวิต สู้ขายข้าวหลัง มช. แม้ป่วยมะเร็ง

ลุงป้าน้ำตาไหล เพจดังยื้อชีวิต สู้ขายข้าวหลัง มช. แม้ป่วยมะเร็ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลุงป้าร้าน "เชฟโจ" หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซาบซึ้งเพจดังแชร์เรื่องราวสุดรันทด กระทั่งโซเชียลช่วยต่อชีวิตให้ ยืนหยัดสู้ขายข้าวให้เด็กๆ แม้จะป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์แชร์เรื่องราวของคุณลุงคุณป้าในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดร้านขายอาหารตามสั่งที่ซอยวัดอุโมงค์ ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำลังประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้ต้องปิดร้านขายอาหาร และติดค้างค่าเช่าห้องที่ใช้เปิดร้านหลายเดือน รวมเป็นเงินหลายหมื่นบาท

เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุรถล้มแขนหัก ขณะที่ตัวคุณลุงก็สุขภาพไม่ดี เคราะห์ซ้ำล่าสุดคุณป้าก็ตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยทางเจ้าของห้องเช่าได้ยื่นคำขาดให้ย้ายข้าวของออก ขีดเส้นตายให้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทางเพจแหม่มโพธิ์ดำได้ให้การช่วยเหลือให้เบื้องต้น 30,000 บาท เมื่อวันที่ 31 มกราคม ทำให้ต่อชีวิตคุณลุงคุณป้าที่กำลังคิดจะยอมแพ้ให้กับชีวิตนี้แล้ว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบว่า นายชิวนพ สุวรรณวัฒน์ อายุ 69 ปี หรือ “ลุงเชฟโจ” และ นางรัชนีวรรณ์ สุวรรณวัฒน์ อายุ 62 ปี หรือ “ป้าตุ๊” ลุงป้าซึ่งเปิดร้านขายอาหารตามสั่งชื่อร้าน “เชฟโจ” แต่ช่วงนี้ยังคงปิดร้านเพราะปัญหารุมร้า โดยทั้ง สองเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและซาบซึ้งใจอย่างมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” เพราะก่อนหน้านี้ถอดใจยอมแพ้และเกือบตัดสินใจฆ่าตัวตายทั้งคู่ไปแล้ว

ลุงป้าเล่าว่าเพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าเช่าร้านที่คงค้าง 3 เดือน เป็นเงินกว่า 20,000 บาท ประกอบกับหนี้สินจากการกู้นอกระบบมาใช้จ่ายในช่วงที่ไม่ได้เปิดร้าน รวมทั้งคุณป้ายังป่วยเป็นมะเร็งมดลูกระยะสุดท้ายอีกด้วย ต้องหาเงินใช้จ่ายในการรักษาตัว ไม่มีเงินซื้อวัตถุดิบมาเปิดร้านขายอาหาร

จนกระทั่งวันที่ 31 มกราคม ได้แอบไปเปิดร้านขายด้วยวัตถุดิบเท่าที่มี อาศัยในช่วงที่เจ้าของห้องเช่าไม่อยู่ เพื่อหวังจะหาเงินได้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อที่จะพาป้าตุ๊ไปโรงพยาบาล ทำเคมีบำบัดครั้งที่ 5

โดยในช่วงที่เปิดร้านได้มีลูกค้าประจำรายหนึ่งมาใช้บริการ จึงได้แจ้งว่าวัตถุดิบที่มีไม่ครบและจะเปิดร้านเป็นวันสุดท้ายแล้ว เนื่องจากค้างค่าเช่าและไม่มีเงินจ่าย ปรากฏว่าลูกค้ารายดังกล่าวได้มีการนำเรื่องราวของตัวเองไปแจ้งให้ทางเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ก่อนจะมีคนหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ด้วยการโอนเงินมาให้ 30,000 บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าเช่าที่ค้าง และทำทุนเปิดร้านขายต่อ

ลุงป้ายังบอกอีกว่า เงินจำนวนดังกล่าวถือว่าช่วยชีวิตตัวเองทั้งคู่ และลูกชายอีกคนที่เป็นโรคสมาธิสั้นได้อย่างมาก รวมทั้งทำให้พอมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป โดยทันทีที่ได้รับโอนเงินมาได้ไปจ่ายค่าเช่าที่ค้าง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เริ่มขนย้ายข้าวของบางส่วนออกมา เพราะทางเจ้าของห้องเช่ายื่นคำขาดไว้ และเตรียมใช้ทำทุนเปิดร้านขายอาหารต่อสู้ชีวิตต่อไป โดยจะเปิดร้านอาหารอีกครั้งในวันนี้ (2 ก.พ.)

สำหรับร้านขายอาหารตามสั่งของ “ลุงเชฟโจ” นั้น เริ่มเปิดขายตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึงช่วงดึก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว ลุงเชฟโจจะเป็นผู้ปรุงอาหารด้วยตัวเอง เพราะพอจะมีฝีมือในการทำอาหารทั้งอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปจากการที่เคยไปใช้ชีวิตในต่างประเทศช่วงเป็นหนุ่ม

ขณะที่ป้าตุ๊เป็นผู้ช่วย ซึ่งในช่วงที่เปิดร้านมีลูกค้าประจำพอสมควรเพราะราคาไม่แพง และลูกค้าให้การยอมรับว่ารสชาติดี โดยที่ผ่านมามีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายพอเลี้ยงครอบครัวแบบไม่ถึงกับสบายแต่ก็ไม่ลำบากมากนัก จนกระทั่งประสบปัญหาอย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากนี้จะเริ่มต้นกลับมาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งอีกครั้ง ด้วยความหวังแค่เพียงให้มีเงินพอใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ป้าตุ๊ และดูแลลูกชายที่เป็นโรคสมาธิสั้นให้เรียนจบจนช่วยเหลือตัวเองได้ รวมทั้งใช้หนี้เงินกู้นอกระบบจำนวน 20,000 บาท ที่ต้องจ่ายรายวัน วันละ 400 บาท มาเกือบปีแล้วให้หมดเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือสามารถโอนเงินไปได้ที่ชื่อบัญชี นางรัชนีวรรณ์ สุวรรณวัฒน์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าแพ หมายเลขบัญชี 501-416368-8

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook