"สุขใจทุกครั้งที่ได้กราบพ่อ" ความทรงจำอันยิ่งใหญ่ของยายชิ้น
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/755/3777046/grandma-6.jpg"สุขใจทุกครั้งที่ได้กราบพ่อ" ความทรงจำอันยิ่งใหญ่ของยายชิ้น

    "สุขใจทุกครั้งที่ได้กราบพ่อ" ความทรงจำอันยิ่งใหญ่ของยายชิ้น

    2017-10-06T18:08:57+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เก้าอี้ขาวที่วางเรียงรายข้างกำแพงสวนสราญรมย์กลายเป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด เพราะนี่คือสิ่งอำนวยความสะดวกชิ้นเดียวที่จะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าให้กับประชาชนที่มาเข้าแถวรอคิวกันตั้งแต่เช้าโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือขอเพียงได้กราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 สักครั้งหนึ่งในชีวิต แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยสักเพียงไหนก็คุ้มค่าที่จะรออย่างมีความหวัง

    หนึ่งในนั่นคือคุณยายชิ้น วัย 72 ปี หญิงชราชาวบุรีรัมย์ที่ดั้นด้นเดินทางมาจากต่างจังหวัด แม้สภาพร่างกายที่ชราภาพเดินเหินไม่ค่อยสะดวก แต่ด้วยหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็งอยากจะเข้ามากราบพระบรมศพอีกสักครั้งในชีวิต จึงรวมตัวกันกับเพื่อนบ้านเหมารถจากบุรีรัมย์มายังท้องสนามหลวงเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันของประชาชนชาวไทย

     “ฉันมาแล้วปลื้มใจและอบอุ่นมากเลยอยากมาอีกครั้ง เพราะเคยมาไหว้แล้ว 1 ครั้งก่อนหน้านี้ ความรู้สึกตอนก้มลงไปกราบแค่แว๊ปเดียว มันมีความหนักแน่นในใจ มันลึกซึ้งในใจฉัน ฉันอยากเห็นพ่อหลวงแบบใกล้ชิดสักครั้งก่อนตาย

    เพราะเคยเห็นแต่ในทีวี ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นพระองค์ท่านแบบจริงๆหรือใกล้ชิดเลยสักครั้งเจอแต่รูปพระบรมฉายาลักษณ์ ฉันมาวันนี้ฉันสุขใจที่สุด”

    นั่นคือข้อความที่ผ่านน้ำเสียงอันสั่นเครือของหญิงชราวัย 72 ปี ที่เปิดใจกับทีมข่าว Sanook News! หลังจากลงพื้นที่รอบสนามหลวงก่อนวันสุดท้ายที่จะปิดไม่ให้ประชาชนเข้าไปกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9

    ซึ่งคุณยายชิ้นได้เล่าต่อว่าตนเองและเพื่อนบ้านได้เหมารถมาจากจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อที่จะได้เข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วหลังจากที่เคยเข้ามากราบพระบรมศพแล้วครั้งหนึ่ง โดยวันนี้คุณยายต้องนั่งรถเดินทางจากบุรีรัมย์กว่า 4 ชั่วโมงและมาถึงสนามหลังเพื่อมาเข้าคิวประมาณ 9 โมงเช้า

    grandma-p4

    ตอนนี้คุณยายชิ้นได้เข้าคิวรอมาประมาณ 6 ชั่วโมงแล้ว และยังคงรอต่อไปด้วยใจจดใจจ่ออย่างมีความหวังถึงแม้ร่างกายจะดูเหนื่อยล้าจากการเดินทางและการรอเข้าคิว แต่ใบหน้าของคุณยายกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่ทางทีมข่าวถามถึงความตั้งใจของคุณยายและความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัฐกาลที่ 9

    คุณยายไม่ลำบาก ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ที่ตั้งนั่งรถมาแต่ไกลยังไม่ได้นอนแถมยังต้องมารอเข้าคิวกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปด้านในเลย นั่นคือบทสนทนาของเรา..?

    “ยายไม่ลำบากหรอกเพราะยายอยากมา พระองค์ท่านทำแต่ความดีทำความดีทุกอย่าง ทำให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขเห็นแล้วก็ปลื้มใจ ท่านงามทั้งตัวและงามทั้งใจทุกอย่างดูแล้วฉันปลื้มมาก มันลึกซึ้งอยู่ในใจจึงอยากมาอีกสักครั้ง

    ถึงแม้บ้านยายจะอยู่ไกลถึงบุรีรัมย์ต้องนั่งรถงานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ไม่รู้สึกลำบากเลยถ้าได้มากราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 หากมีงานอะไรเกี่ยวกับพระองค์ท่านและร่างกายยังแข็งแรงอยู่ยายก็จะมาร่วมพิธีทุกครั้ง”(คุณยายตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม)

    grandma-p1

    เมื่อครั้งที่แล้วที่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 คุณยายรู้สึกอย่างไร..?

    “ความทรงจำของฉันที่มีต่อพ่อหลวง ร.9 คือรู้สึกรักพระองค์ท่านทุกอย่างและอบอุ่นในใจทุกครั้งที่ได้พบเห็น เมื่อครั้งยังเด็กแค่ได้นึกถึงพระองค์ท่านฉันก็ปลื้มใจอุ่นใจแล้ว

    ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันได้เข้าไปกราบพระบรมศพในหลวง ร.9 แค่เพียงเสี้ยววินาที ฉันก็รู้สึกปลื้มใจเย็นในใจและซาบซึ้งในพระองค์ท่าน ถึงแม้จะต้องให้เข้าแถวรอนานแค่ไหน ฉันก็จะรอขอเพียงแค่ได้เข้าไปกราบพระองค์ท่านเท่านั้นก็พอ

    ถ้าว่าเค้าให้ฉันอยู่นานๆ ให้นั่งเป็นวันๆ ฉันก็อยู่ได้เพราะฉันรู้สึกปลื้มใจ ฉันรักพระองค์ท่านและพระองค์ท่านจะอยู่ในใจฉันตลอดไป” (คุณยายตอบด้วยรอยยิ้ม พร้อมน้ำตาที่มาจากความปลาบปลื้ม)

    grandma-p2

    ในเมื่อเคยเข้ามากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 มาแล้ว ทำไมถึงมาอีกครั้ง..?

    “ฉันรู้สึกสุขใจทุกครั้งที่ได้เข้ามากราบพ่อหลวง สมัยก่อนได้เห็นแต่พระองค์ท่านอยู่ในโทรทัศน์ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านเลย และรู้สึกใจหายที่พระองค์ท่านสวรรคต จึงอยากมากราบพระบรมศพพระองค์สักครั้งหนึ่งในชีวิตเท่านี้ก็เป็นบุญของฉันแล้ว” (คุณยายยิ้มด้วยความสุข)

    หนึ่งในความรู้สึกของยายชิ้นหญิงชราชาวบุรีรัมย์คงสามารถตอบแทนความรู้สึกของคนไทยกว่า 70 ล้าน ได้ว่าแม้เหนื่อยยากแค่ไหน ต้องทนรออีกนานเท่าใด ความสุขที่ได้กราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 คือความสุขที่อิ่มอกอิ่มใจที่ยากหาสิ่งใดเทียบได้เลย