ญาติเศร้ารับศพสาวท้องตกรางรถไฟ CCTV ยังไม่พบคนผิด

ญาติเศร้ารับศพสาวท้องตกรางรถไฟ CCTV ยังไม่พบคนผิด

ญาติเศร้ารับศพสาวท้องตกรางรถไฟ CCTV ยังไม่พบคนผิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครอบครัว รับศพสาวท้องตกรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์สถานีบ้านทับช้างแล้ว ด้าน ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังไม่พบคนกระทำผิด รอหาสาเหตุ ด้าน สามี ฝาก รฟท. เพิ่มรปภ.ผู้โดยสาร ขอเป็นเหตุสุดท้าย

ครอบครัวและเพื่อนของนางสาวรสรินทร์ เปลี่ยนหล้า หญิงตั้งครรภ์ที่พลัดตกลงไปในรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง เสียชีวิต เมื่อวานที่ผ่านมา เดินทางมารับศพ นางสาวรสรินทร์ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดในจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นบ้านเกิด หลังแพทย์ทำการชันสูตรศพ หาสาเหตุการเสียชีวิต

ขณะที่พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ เปิดเผยว่าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจรถไฟมักกะสัน เจ้าของพื้นที่ ได้ทำการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีบ้านทับช้าง เพื่อหาข้อเท็จจริงของเหตุที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิด และวัตถุพยานที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของสถานีเกิดเหตุส่งมาให้กับพนักงานสอบสวน โดยจากการตรวจสอบทั้งหมดจนถึงขณะนี้ยังไม่พบการกระทำความผิดของบุคคลใดที่เป็นเหตุให้ นางสาวรสรินทร์ เสียชีวิต

แต่ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังต้องรอสอบปากคำแพทย์ชันสูตรศพ นางสาวรสรินทร์ ถึงสาเหตุการตาย และสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ก่อนที่จะนำไปรวมในสำนวนคดีการไต่สวนสาเหตุการตาย

สามีสาวตกรางรถไฟ ฝาก รฟท.เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

นายปิยะพงษ์ รอบคอบ สามีของนางสาวรสรินทร์ เปลี่ยนหล้า อายุ 31 ปี หญิงตั้งครรภ์  6 เดือน ที่พลัดตกลงไปในรางรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง และเสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตหรือภรรยาของตนเอง มีอาการแพ้ท้อง มึนหัวบ่อยครั้ง แต่ไม่มีโรคประจำตัว ทุกวันนายปิยะพงษ์จะไปส่งภรรยาขึ้นรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่สถานีบ้านทับช้างเพื่อไปทำงาน  โดยก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุ เป็นปกติเหมือนกับทุกๆวัน ซึ่งครอบครัวที่ตนเองกำลังจะสร้างขึ้นมา แต่ทั้งภรรยาและลูกได้จากไปเสียก่อน รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

จึงอยากฝากไปถึงการรถไฟแห่ง ประเทศไทย (รฟท.) ว่าขอให้เพิ่มความปลอดภัยและขอให้เหตุที่เกิดขึ้นกับภรรยาเป็นตัวอย่างสุดท้าย รวมทั้งฝากไปยังกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบ ไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกสำหรับการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น นายปิยะพงษ์ กล่าวว่า ขอให้ผ่านพิธีบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาไปก่อน ถึงค่อยกลับมาพูดคุยกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook