โจ๋เชียงใหม่ขอโทษ ชักปืนขู่ฝรั่งขับปาดหน้า ยอมรับทำเกินเหตุ
ตำรวจเรียกตัวโจ๋ใจร้อนเข้าพบ หลังก่อชักปืนข่มขู่คู่กรณีต่างชาติ เหตุโมโหถูกขับปาดหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัว ยอมรับเกินจากความโมโหเอาปืนบีบีกันลงไปข่มขู่ผู้เสียหาย
(29 พ.ค.) พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว. เชียงใหม่ ได้เดินทางมายัง สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินการติดตามความคืบหน้า กรณีที่บนโลกโซเชียลมีเดีย ได้มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ของผู้ขับขี่รถยนต์คันหนึ่ง ที่ได้มีการถืออาวุธปืนข่มขู่รถที่สัญจรไปมา เหตุเกิดบริเวณทางเบี่ยงหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่
ทางผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนมายังตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามตัวผู้ขับขี่ มาดำเนินคดี โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และยอมรับว่าเป็นผู่ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวในช่วงเกิดเหตุ ได้เดินทางมาพร้อมกับมารดา เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้นำอาวุธปืนที่ก่อเหตุมาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ
ผู้ก่อเหตุได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนได้ขับรถคันดังกล่าวดังกล่าวไปเที่ยวยังห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ โดยระหว่างที่กำลังขับขี่รถอยู่ รถยนต์คู่กรณีได้มีการขับขี่ปาดหน้ารถของตน ด้วยความโมโหตนจึงได้หยิบปืนซึ่งเป็นปืนบีบีกันชูขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่
จากนั้นก็ได้ทำการขับรถไปตามปกติ โดยภายหลังได้ทราบว่ามีการร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงได้เดินทางเข้ามาพบเพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าวและแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งขอโทษทางผู้เสียหายกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นหลังจากที่ได้ทำการสอบสวนเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนิน คดีข่มขู่ทำให้เกิดความหวาดกลัวเป็นคดีลหุโทษมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 392 นอกจากนี้ยังได้มีการว่ากล่าวตักเตือนเพื่อมิให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ
ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ชาวบ้านได้มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวปรากฎบนโลกโซเชียล ซึ่งภายหลังทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 และทาง พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงได้มีคำสังให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่าได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทางผู้เสียหายและคู่กรณีเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วได้มีการขับรถปาดหน้ากัน ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ซึ่งในเวลาต่อมาปรากฏว่ามีรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง ได้นำวัตถุคลายอาวุธปืนข่มขู่ทางผู้เสียหาย ที่จอดขวางทาง หลังจากนั้นก็ได้ขับขี่รถออกจากที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ในเวลาต่อมาจากการตรวจสอบแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบตัวบุคคลก่อเหตุในภายหลังว่าเป็นเยาวชน จึงได้ทำการเรียกตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมกับทางผู้เสียหายซึ่งทราบว่าเป็นชาวอเมริกัน โดยในวันเกิดเหตุนั้นได้ขับรถมากับภรรยา ซึ่งทางฝ่ายผู้เสียหายนั้นได้พาลูกมาด้วย โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็เกิดความตกใจและเกิดความกลัว จึงได้นำเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นไปบอกเล่ากับญาติคนไทย และได้เกิดการร้องเรียนมาทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้มีการสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ขณะเดียวกันทาง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ฝากย้ำเตือนถึงประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยว่า ที่ผ่านมากรณีเกี่ยวกับความใจร้อนและอุบัติเหตุในการขับขี่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความใจร้อนและการใช้อารมณ์ ขาดสติ รวมถึงเรื่องของการใช้กำลังและข่มขู่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นตามมา ดังนั้นการขับขี่และการใช้รถใช้ถนนร่วมกันนั้นอยากให้ทุกคนมีสติ มีวินัย และไม่ประมาท เพื่อเป็นการลดปัญหาและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในสังคมไทยอีกด้วย