แกะรอย “ผีน้อย” คนไทยหนีทัวร์เข้าขุดทองในเกาหลีใต้

แกะรอย “ผีน้อย” คนไทยหนีทัวร์เข้าขุดทองในเกาหลีใต้

แกะรอย “ผีน้อย” คนไทยหนีทัวร์เข้าขุดทองในเกาหลีใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพและข้อความจากเฟซบุ๊กของไกด์ทัวร์รายหนึ่ง ซึ่งได้ประกาศตามหาตัวนักท่องเที่ยวสาวไทยที่ได้หนีออกไปต่อหน้าต่อตาหลังจากเพิ่งเซ็นรับรองให้เข้ามาเที่ยวจนสามารถผ่าน ตม.เกาหลีใต้ได้

ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเนื่องจากว่าการกระทำลักษณะเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับนักท่องเที่ยวไทย เพราะแรงงานไทยมักอาศรัยมากับกรุ๊ปทัวร์แล้วลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาขายแรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก ทำให้ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของคนไทยเป็นที่เพ่งเล็งจากทาง ตม.เกาหลีใต้อย่างมาก

1er3e

และปัญหาดังกล่าวยังส่งผลกระทบมาถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้จริงๆ ต้องถูกจับตาและตรวจสอบอย่างเข้มขวดจนบางครั้งอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองได้แบบเป็นที่น่ากังขาจนเป็นข่าวครึกโครมทุกครั้งที่มีการแชร์ประสบการณ์การติดด่าน ตม.เกาหลีใต้

ทั้งนี้เพราะสาเหตุใดกันเล่าแรงงานไทยถึงเอาชีวิตและอนาคตมาเสี่ยงกับการเป็นแรงงานเถื่อนเพื่อลักลอบเข้ามาขุดทองในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเหตุผลนั้นคงหนีไม่พ้นความฝันว่าจะมีอนาคตที่ดีและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

1g

ซึ่งอนาคตที่ว่ามาจากคำโฆษณาชวนเชื่อจากเว็ปไซต์ต่างๆที่อยู่บนโลกออนไลน์ หรือคำชักชวนจากนายหน้า ว่ารายได้ที่ได้รับแต่ล่ะวันมีมูลค่าสูงถึง 60,000 – 80,000 วอนกันเลยที่เดียว หากเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,800 – 2,500 บาทต่อวัน ที่อยู่ฟรี บางที่มีอาหารให้ด้วย โดยลักษณะของงานก็คือการใช้แรงงานทั่วไปหากใครอึกถึกทนทำงานได้มาก

เดือนนึงก็จะมีเงินสูงมากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป หรือบางที่รับแบบผัวเมียรายได้ 70,000 – 80,000 วอน หรือประมาณ 2,000 – 2,500 บาทไทย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เองทำให้แรงงานไทยยอมที่จะเสี่ยงเข้ามาเป็น “ผีน้อย” ที่ประเทศเกาหลีใต้กันมากขึ้น ซึ่งคำว่า “ผีน้อย” ก็คือคำที่ใช้เรียกแรงงานที่หลบหนีและลักลอบเข้ามาทำงานที่ต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีงานอีกหลายประเภทที่น่าสนใจและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เช่น งานนวดรับเฉพาะผู้หญิงมีการการันตีรายได้รวมขั้นต่ำต่อเดือน 70,000-100,000 บาทขึ้นไป

1ew3

ส่วนด้านการสภาพความเป็นอยู่ก็พอสะดวกสบายอยู่บ้างไม่ว่าจะเป็นที่พักมีการจัดเตรียมให้พร้อมเสร็จสรรพ ถ้าหากคุณอยากไปเที่ยวที่ไหน หรือ อยากหนีเจ้านายเปลี่ยนงานใหม่ที่เกาหลีใต้ หรือ จะกลับบ้านก็จะมีรถรับส่งซึ่งเป็นของคนไทยคอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง แถมดำเนินเรื่องทำพาสปอร์ตจองตั๋วเครื่องบินให้เสร็จสรรพ และถ้าหากคุณอยากกินอะไรจากเมืองไทยก็มีขายและมีพรีออร์เด้ออีกด้วย เรียกได้ว่าถ้ามีเงินอะไรก็ง่ายไปหมด แม้กระทั่งอยากจะส่งเงินกลับบ้านก็ไม่มีปัญหามีบริการรับโอนเงินถึงบ้านหายห่วง

1ewqw

หากใครสนใจอยากไปเป็น “ผีน้อย” ที่ประเทศเกาหลีใต้แต่ไม่มีเงินก็ไปได้ไม่ต้องกังวลเพราะมีนายหน้าพาไปโดยจะหักเงินที่หลังจากการการได้รับค่าจ้าง หรือ  ไม่อยากผ่านนายหน้าก็สามารถแฝงตัวไปกับกรุ๊ปทัวร์ได้

อีกทั้งยังมีบริการปรับปรุงบุคลิกภาพ สอนเขียนพาสปอร์ต ออกแบบเครื่องแต่งกาย หรือ แม้กระทั่งพาเข้าประเทศเกาหลีใต้ก็มีเรียกว่ามีบริการทุกระดับประทับใจจริงๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแรงงานไทยจึงอยากจะไปเสี่ยงโชคที่ประเทศเกาหลีใต้มีกันมากจริงๆ

แต่บางคนก็ใช่ว่าจะได้เจอสิ่งสวยงามมีอนาคตที่ดีมีงานมีเงินที่ดี เพราะแรงงานบางคนก็อาจตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือถูกหลอกลวงจนสิ้นเนื้อประดาตัวก็มี

สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ที่ได้เปิดเผยกับทางทีมข่าว Sanook! News ว่ากลุ่มบุคคลหรือนายหน้าจะใช้สื่อสังคมออนไลน์ชักชวนให้คนหางานที่เป็นสตรีเดินทางไปทำงานนวด โดยแนะนำให้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศเกาหลีในรูปแบบนักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ได้ครั้งละ 90 วัน หากสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองไปได้ ก็จะมีนายหน้ามารับเพื่อพาไปหางานให้หรือส่งไปทำงานในสถานบริการนวดตามเมืองต่างๆ

ซึ่งหลายแห่งมีการแอบแฝงค้าประเวณีด้วย เมื่อใกล้จะครบกำหนดก็จะแนะนำให้เดินทางกลับประเทศไทยและขอเดินทางกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง บางรายเมื่ออยู่จนครบกำหนดแล้วก็จะลักลอบอยู่ต่ออย่างผิดกฎหมาย  ซึ่งที่ผ่านมามีหลายรายได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่นายหน้ากล่าวอ้าง หรือไม่ได้รับค่าจ้างและถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง

บางรายถูกบังคับให้ค้าประเวณี เมื่อประสบปัญหาก็ไม่สามารถเรียกร้องใดๆ จากนายจ้างได้ เพราะกลัวถูกเจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีจับกุม เนื่องจากมีสถานะเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองและลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้อาชีพนวดเป็นอาชีพที่ทางการเกาหลีสงวนไว้เฉพาะคนเกาหลีผู้พิการทางสายตาที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น ดังนั้น จึงอย่าหลงเชื่อผู้มาชักชวนไปทำงานนวดที่เกาหลีเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถ้าถูกจับได้จะต้องถูกปรับเงิน

ซึ่งไม่คุ้มค่าต่อการทำงานและถูกทางการเกาหลีขึ้นบัญชีห้ามเข้าประเทศ (Black List) ทำให้เสียโอกาสในการเดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลีอีกต่อไป รวมทั้งส่งผลเสียต่อการเดินทางไปทำงานของแรงงานไทยในอนาคตและภาพลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย

s__2998275

(นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน)

ทั้งนี้ อธิบดีกรมการจัดหางาน ยังได้แนะนำการไปทำงานต่างประเทศโดยถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี ดังนี้

1.  กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง คือ บริการที่รัฐโดยกรมการจัดหางานเป็นผู้ดำเนินการให้แก่คนที่หางานที่ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งคนหางานไม่ต้องเสียค่าบริการแต่เสียค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเท่าที่จ่ายจริง เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพ ค่าวีซ่า ค่าภาษีสนามบิน เป็นต้น

2. บริษัทจัดหางานจัดส่ง ต้องเป็นบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน การรับสมัครคนหางานและจัดส่งคนหางานไปทำงานต้องได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานก่อนจึงจะประกาศรับสมัครและจัดส่งไปทำงานได้

3. นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยที่มีบริษัทในเครืออยู่ในต่างประเทศ หรือประมูลงานในต่างประเทศได้ และประสงค์จะพาลูกจ้างไปทำงานต้องขออนุญาตการเดินทางไปทำงานต่างประเทศต่อกรมการจัดหางาน

4. นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงานในต่างประเทศ นายจ้างต้องแจ้งการเดินทางไปฝึกงานของลูกจ้างต่อกรมการจัดหางานโดยยื่นแบบแจ้งการส่งลูกจ้างไปฝึกงานในต่างประเทศ

5. คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตัวเอง คนหางานติดต่อไปทำงานกับนายจ้างในต่างประเทศด้วยตนเอง หรือคนหางานที่ทำงานครบสัญญาจ้างแล้วได้ต่อสัญญาจ้าง เมื่อเดินทางกลับมาพักผ่อนชั่วคราวในประเทศไทยและจะกลับไปทำงานอีก ต้องแจ้งต่อกรมการจัดหางานก่อนวันเดินทาง

1g2

หากประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศต้องตรวจสอบตำแหน่งงานกับกรมการจัดหางานก่อนว่ามีจริงหรือไม่ และศึกษาสัญญาจ้างให้ละเอียดรอบคอบ เช่น ลักษณะการทำงาน อัตราค่าจ้าง สวัสดิการ เป็นต้น ก่อนตัดสินใจเดินทาง

โดยการไปทำงานต่างประเทศจะต้องไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านด่านตรวจคนหางาน กรมการจัดหางาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือโทร.สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

สุดท้ายนี้ ท่านอธิบดี ยังย้ำเตือนอีกว่าหากใครถูกหลอกให้ไปทำงานที่ต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายสามารถแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน ถ.มิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ทางกรมการจัดหางานยังได้มีการปราบปรามนายหน้าเถื่อนเหล่านี้ เพื่อลดปัญหาการหลอกลวงคนไปทำงานที่ต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์และการตรวจตราอย่างรัดกุมเข้มงวดเพื่อปิดช่องว่างการไปทำงานต่างประเทศอย่างไม่ถูกต้องตามนโยบายของกรมการจัดหางาน นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวทิ้งท้าย

งานดีเงินดีย่อมสร้างอนาคตที่ดี ซึ่งใครๆก็ใฝ่ฝันหา แต่ก่อนที่จะหลงเชื่อคำชักชวนหรือคำโฆษณาควรไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะหากไม่รอบคอบหลงเชื่อแต่คำลวง สุดท้ายก็อาจต้องกลายไปเป็น “ผีน้อย” ที่ไม่มีอนาคต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook