ไฟไหม้วิหารวัดดังเชียงใหม่ ญาติโยมเสียดาย วอดวายเกือบทั้งหลัง
เพลิงไหม้วิหารวัดป่าแดด เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพลิงโหมลุกลามรวดเร็ว พระ-ญาติโยมช่วยไม่ไหว จนท.ฉีดน้ำดับเพลิงนับชั่วโมงกว่าจะควบคุมได้ เสียหายเกือบทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร
(23 เม.ย.) เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ร.ต.อ.นพดล เอกจิตร รอง สว. (สอบสวน) สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุเกิดเหตุเพลิงไหม้วิหารภายในวัดมงคลวนาราม ตั้งอยู่ที่บริเวณใกล้สี่แยกป่าแดด ถ.เชียงใหม่-ลำปาง ม.1 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงได้รุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจของสถานีดับเพลิง พร้อมทั้งได้ทำการแจ้งประสานไปยังทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลป่าแดด และในพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนักภายในตัววิหารของวัด
ที่เกิดเหตุพบพระสงฆ์ภายในวัดและกลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ บางส่วนได้ช่วยกันหาน้ำมาดับเพลิง เพราะเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนักที่บริเวณหลังคาวัด และมีกลุ่มควันไฟหนาพวยพุ่งขึ้นมา ในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ประสานงานนำรถดับเพลิง 7-8 คัน เข้าทำการระงับเหตุ ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงกว่า จึงจะสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการสำรวจภายในวิหารวัด เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่อยู่ภายในถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังพบภาพวาดฝาผนังภายในวิหารถูกเพลิงไหม้ หลังคาวัดที่ไฟลุกลามได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ขณะเดียวกันทาง ร.ต.อ.นพดล เอกจิตร รอง สว. (สอบสวน) สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า วัดดังกล่าวมี พระจรีศักดิ์ ปัญญาวชิโร เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดมงคลวนาราม โดยก่อนเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเช้าที่พระสงฆ์กำลังออกบิณฑบาต และบางส่วนได้ทำความสะอาดบริเวณภายในวัด ระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นกลุ่มควันไฟออกมาจากบริเวณหลังคาของวิหารวัด จึงได้รีบเรียกให้คนช่วย ก่อนพากันดับไฟแต่ก็ไม่ทันเนื่องจากเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว
ส่วนสาเหตุนั้นเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจร เพราะต้นเพลิงได้ลุกลามจากฝาผนังด้านบนหลังคาของวัด ส่วนค่าความเสียหายนั้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง