ผบ.ตร.ปัดรุนแรงค้นวัดพระธรรมกายจับตามือ3ป่วน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัด รุนแรงค้นวัดพระธรรมกาย จับตามือที่ 3 ป่วน มั่นใจไม่มีโกงค่าอาหารเจ้าหน้าที่ ยัน ฟันไม่เลี้ยงตำรวจเอี่ยวยาเสพติด ชี้ถือเป็นภัยคุกคามองค์กรตำรวจ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ว่า พระธัมมชโย จะอยู่หรือไม่ก็ไม่ใส่ใจ ขอแค่ให้การตรวจค้นเสร็จสิ้น เพราะทุกวันนี้ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นภายในได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าเข้าไปได้โดยสะดวกทุกอย่างก็จะจบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าดำเนินการถูกต้อง ไม่ใช่คนร้ายหรือโจร เพียงแต่ถูกขัดขวางทุกอย่าง และยืนยันว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนจะเปลี่ยนให้ตำรวจเป็นหน่วยงานหลักในปฏิบัติการตรวจค้นแทนดีเอสไอหรือไม่ เป็นอำนาจของ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และเครือข่ายวัดพระธรรมกายในต่างประเทศนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่า มีฝ่ายการข่าวติดตามอยู่แล้ว ส่วนความกังวลว่าจะมีมือที่สามเข้ามาก่อความไม่สงบ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เปลี่ยนกำลังพลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้ประชาชน และยังตอบไม่ได้ว่าปฏิบัติการจะเสร็จสิ้นเมื่อใด อาจจะยืดเยื้อเป็นปี และให้อยู่กันไปแบบนี้ภายใต้กฎหมายพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ติดตามเรื่องค่าอาหารของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณวัดพระธรรมกายแล้ว หลังจากมีการร้องเรียนเรื่องค่าอาหารที่มีราคาสูง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าอย่าให้มีการโกงลูกน้องเกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และตนเชื่อว่าไม่มีใครที่โกงลูกน้อง แต่อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวถึงกรณีตำรวจสืบสวนนครบาล 7 จับกุมตำรวจระดับรองสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบวรมงคล ฐานมียาเสพติดในครอบครอง รวมถึงออกหมายจับรองสารวัตร 3 นาย และตำรวจชั้นประทวน 3 นาย ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ ว่า ถ้าพบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะให้ออกจากราชการสถานเดียว เพราะถือเป็นภัยคุกคามต่อองค์กรตำรวจ และยิ่งช่วงนี้อยู่ระหว่างการปฏิรูปตำรวจ ตำรวจไม่ดีไม่มีใครเอาไว้
ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่มีผู้บังคับการคนไหนทีจะให้ความช่วยเหลือผู้กระทำความผิด