นายกบอกศิษย์ธรรมกาย ไม่ต้องกลัวถูกยึดพระทองคำ ถามกลับเป็นทองแท้หรือเปล่า?

-21กพ.60- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวถึงปัญหาการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย รอบที่สามเเละเป็นวันที่6ว่า วันนี้โทรทัศน์บางช่อง เเละพิธีกรบางคน ระบุว่าการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกายแล้วก็ไม่มีความหมาย กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยา ซึ่งเรื่องนี้หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ปัญหาก็จะเกิด กลายเป็นเชียร์มวย ดูกันว่าใครจะชนะระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ ถามว่าเกิดประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองบ้าง เรื่องนี้เป็นคดีความ ถ้าสู้กันตามกระบวนการ ทุกอย่างก็จบ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อตำรวจบอกว่า 7 วัน คือหมายความว่า ต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป วันนี้มีการทำงานร่วมกัน เช่น สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) มหาเถรสมาคม(มส.) ก็ลงมาหารือร่วมกัน เพื่อทำให้วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าไป ไม่แปลกประหลาดหรือแตกต่างจากที่อื่น ส่วนคดีความนั้นเป็นเรื่องของบุคคล ใครทำผิดก็ว่ากันไป ขอร้องอย่าพูดเหมือนเดิมพันใครจะชนะ เพราะบ้านเมืองจะแพ้ตลอด
เมื่อถามว่า วัดพระธรรมกายมีการต่อเติมอาคารและใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนทำผิดกฎหมายยังไม่มาขึ้นศาลตามกระบวนการ จึงอย่าเพิ่งถามว่าผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดหรือไม่ ดังนั้นสื่อมวลชนจึงควรบอกผู้ที่กระทำความผิดให้มามอบตัว เพราะเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนที่จะต้องไปบอกว่า ขอให้พระสงฆ์เอาผ้าปิดจมูกออก
“ได้ที่ไหน เป็นพระปิดหน้าปิดตา เหมาะสมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนที่ขอให้ยกเลิกมาตรา 44 ยืนยันว่าผมไม่ยกเลิก เพราะยังไม่จบเรื่องแล้วจะยกเลิกได้อย่างไร กฎหมายเลิกได้ที่ไหน ในเมื่อยังนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีไม่ได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องควบคุมไปตลอดจนกว่าพระธัมมชโยจะมอบตัวหรือดำเนินคดีได้ พร้อมบริหารจัดการใหม่และอย่ามาบอกว่า ผมจะไปยึดพระทองคำ เพราะไม่รู้อะไรอยู่ไหน มีหรือเปล่าก็ไม่รู้ และแน่ใจอย่างไรว่าเป็นพระแท้ เป็นไปได้หรือที่นำทองคำไปหล่อพระขนาดนั้น เพราะขนาดสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นยังรั่วเลย คิดแบบนี้ก็จะรู้คำตอบเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว