จับเข่าคุยความจริง “ริว จิตสัมผัส” หากินกับเรื่องทำแท้งจริงหรือไม่?

จับเข่าคุยความจริง “ริว จิตสัมผัส” หากินกับเรื่องทำแท้งจริงหรือไม่?

จับเข่าคุยความจริง “ริว จิตสัมผัส” หากินกับเรื่องทำแท้งจริงหรือไม่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณเคยมีทำแท้งหรือไม่...?

ประโยคที่เปรียบเสมือนโลโก้ประจำตัวของ "ริว จิตสัมผัส" จนกลายเป็นกระแสตีกลับ "ทำไมผู้ที่มีจิตสัมผัสแบบริวนั้นถึงมักทักเรื่องการทำแท้ง" และเป็นครั้งที่สองทีมข่าว Sanook News ได้นั่งจับเข่าพูดคุยกับ "ริว จิตสัมผัส" เกี่ยวกับประเด็นนี้แบบล้วงลึกทุกข้อสงสัยได้ที่นี่ที่แรกและที่เดียว : อ่านย้อนหลัง (เปิดโลกลี้ลับ! "ริว จิตสัมผัส" ผู้บรรเทาความทุกข์ดวงวิญญาณ)

หากินกับเรื่อง "ทำแท้ง"

"ผมมีโอกาสได้อ่านเจอคอมเม้นท์ว่าคุณริวนี่ฉลาดหากินแต่กับเรื่องทำแท้ง ก็รู้อยู่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ทำแท้งก็เลยเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการทำมาหากิน ผมอ่านเสร็จผมก็นั่งยิ้มและก็ขำมากคนเขียนนี่เก่งนะ ในเมื่อเขาก็รู้อยู่แล้วว่าคนส่วนใหญ่ทำแท้งแล้วมันผิดไหมกับการที่เราจะรณรงค์ ในเมื่อคนรู้อยู่ว่าการทำแท้งเป็นเรื่องที่บาปไม่ดีแต่ทำไมเรายังสนับสนุนคนเหล่านั้นทำแท้งมากขึ้น ถ้ามองตรงกันข้ามเรื่องทำแท้งเป็นเรื่องที่สอนให้รู้ว่าคนเหล่านั้นที่ท้องแล้วต้องไปทำแท้งเพราะเขาไม่ป้องกันใช่ไหม เพราะไม่ป้องกันพอท้องขึ้นมาก็บอกว่าไม่พร้อมเลยต้องเอาออกมันถูกต้องหรือไม่"

 

เพราะสังคมไม่กล้าพูด "เรื่องเพศ"

"เพราะว่าปัจจุบันมันมีการพูดคุยเรื่องเพศอย่างคึกโครม แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องเพศศึกษาอย่างจริงจัง สุดท้ายเราใช้การปกปิดเลยทำให้เด็กอยากรู้เรื่องเซ็กส์เรื่องเพศมากขึ้น และเทคโนโลยีที่เติบโตมันทำให้คนเขาถึงสื่อแนวโป๊มากขึ้น ในเมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนไปขนาดนี้ทำไมเราไม่กล้าพูดกล้าสอนกับลูกเราอย่างจริงจัง 

การที่ท่านกวนอูให้ทำหน้าที่นี้ร่วมกับท่านไม่ใช่เพื่อเอาความทุกข์ของคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งมาหากินผมไม่เคยดูดวงใครและรับเงินใคร แต่สิ่งที่เรากำลังทำคือเราเอาเรื่องราวของคนเหล่านั้นมาเป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นใหม่ ว่าเห็นไหมสิ่งที่เขาทำผิดพลาดตั้งแต่อดีตต่อให้มันผ่านไปกี่ปีเขายังจดจำมันยังไม่ลืมมันคือนรกในใจ นั้นหมายถึงไม่อยากให้เด็กหรือใครเข้าไปเกี่ยวข้อง"

สิ่งตอบแทนเด็กที่กำลังจะเกิด "ไม่ได้ตั้งใจ"

"เมื่อคนหนึ่งคนกล้าฆ่าได้แม้กระทั่งลูกตัวเองคำถามต่อไปในวันข้างหน้าเขาจะกล้าทำผิดเรื่องอื่นไหมมันก็มีสิทธิที่จะทำผิดเรื่องที่มากขึ้นไปกว่านี้ ถ้าเกิดวันหนึ่งไปเป็นครูบาอาจารย์แล้วลูกศิษย์มาปรึกษาหนูท้องหนูจะทำยังไงดีคิดว่าครูเหล่านั้นจะตอบลูกศิษย์ว่าไงดีถ้าเกิดว่าครูเองก็เคยทำการที่เอาเรื่องนี้มาพูดก็เพื่อเป็นกระจกสะท้อนสังคมที่เราใช้คำว่าไม่ได้ตั้งใจเพื่อตอบแทนสิ่งมีชีวิตที่เรากำลังจะไม่ให้เขาได้เกิดมานั่นคือสิ่งที่ถูกแล้วหรอ และสิ่งที่คนกำลังคิดว่าริวเอามาหากินเอามาตอกย้ำเรื่องคนที่เขาทุกข์ในการทำแท้ง เราไม่เคยตอกย้ำแต่เราพยายามให้คนที่เคยผ่านเรื่องราวที่ไม่ดีเอาเรื่องของตัวเองไปเป็นอุทาหรณ์สอนเด็ก ให้เด็กรุ่นใหม่ได้เกรงกลัวละอายกับสิ่งที่ทำไม่ใช่บอกแค่ไม่รู้ไม่ได้ตั้งใจ"

 

รู้หรือไม่ขอขมากรรมทำแท้งไม่ใช่ "แก้กรรม"

"ปัจจุบันผมทำไม่ได้แล้วท่านกวนอูให้งดหลังๆ จึงไม่เห็นผมพูดเรื่องทำแท้งอีกเลย ซึ่งในความเชื่อคนอ่านจะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ในความเชื่อคือหลังจากที่ท่านให้มีพิธีขอขมากรรมทำแท้ง หลายคนก็มักจะบอกว่าเป็นพิธีแก้กรรม นั่นไม่ใช่การแก้เพียงให้คนได้สารภาพบาปต่อหน้าพระพุทธรูป และได้มีโอกาสตั้งสัตย์สาบานกับตัวเองว่าชีวิตนี้จะไม่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ แต่บาปของเขายังคงอยู่แต่อย่างน้อยให้เขารู้สึกว่าเขาได้ระบายแล้วและเขาก็จะเริ่มต้นตั้งต้นเป็นคนใหม่"

"แต่หลังจากที่ทำเรื่องนี้มา 5 ปี ทำให้รู้ว่าคนเราไม่ได้กลัวบาปจริง สุดท้ายแล้วก็ยังมีหลายคนที่เคยทำผิดพลาดก็ยังกลับไปทำผิดเรื่องนี้อีก เด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ในสังคมก็ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมันก็ยังมีคนทำแท้งมากขึ้น เพราะฉะนั้นดวงวิญญาณทั้งหลายจึงไปกราบท่านกวนอูแล้วบอกท่านว่าท่านไม่ยุติธรรมในเมื่อคนเหล่านี้ไม่ได้ตระหนักถึงบางบุญคุณโทษแล้วทำไมต้องไปปกป้องคนเหล่านั้น หลังจากนั้นมาท่านกวนอูก็เลยห้ามไม่อนุญาตให้ผมทำหน้าที่นี้อีก"

"ตายทั้งเป็น" เมื่อรู้จะไม่ได้เกิด

"เด็กที่ถูกทำแท้งความทรมานของเขามันต้องเริ่มทรมานตั้งแต่วินาทีที่เขารู้ว่าพ่อแม่เป็นใครวันที่คุณมีอะไรกัน วันที่คุณมีความสุขจนวินาทีที่ท้องขึ้นมาดวงวิญญาณเขาจะรู้ว่าเขาจะได้เกิดกับใคร เขามีความสุขกับการที่เขาจะได้ลืมตาดูโลกใบใหม่นี้ แต่ทุกอย่างมันต้องกลายเป็นความมืดเมื่อได้ยินเสียงพ่อแม่ทะเลาะกันพ่อแม่จะไม่เอาเขาไว้"

"บางคนร้องไห้ปรับทุกข์เพราะไม่พร้อมยังเรียนหนังสืออยู่ บางคนก็อาจจะด่าว่าไอ้มารหัวขนมึงจะเกิดมาทำไม เด็กเหล่านั้นจึงรับรู้ได้ว่าเขาจะได้เกิดหรือว่าเขาจะต้องตาย พอรู้ว่าต้องตายทุกวินาทีของเขาจึงอยู่กับความทุกข์ทรมานและร้องโหยหวนไม่ต่างจากเรา เวลาที่พ่อแม่ที่ใกล้จะไปเอาเขาออกเด็กก็จะดิ้น หรือในขณะที่แพทย์เอาเครื่องสอดเข้าไปเคยมีแพทย์ถ่ายภาพเห็นนะครับว่าเด็กพยายามหลบเพื่อให้ตัวเองจะต้องตายนั้นคือความทุกข์ทรมาน"

 

"กฏแห่งกรรม" ยุติธรรมเสมอ

"หลังจากที่เขาตายสิ่งที่ติดตามพ่อแม่เหล่านั้นไม่ใช่ดวงวิญญาณเด็กแต่เป็นเจตนาที่เรียกว่าวิบากกรรม คนเราเมื่อเจตนาทำอะไรลงไปในสิ่งที่ชั่วมันก็คือวิบากกรรม วิบากกรมตัวนี้แหละจึงเป็นตัวกำหนดให้คนเหล่านั้นต้องตกทุกข์ได้ยากหรือต้องรอคอยที่ได้รับกรรมนั้น ส่วนดวงวิญญาณก็อยู่ในนรกอยู่ในที่รอการไปเกิดใหม่แต่ที่นั้นหนาวเย็นที่ไม่ได้เกิดจากที่มีลมพัด ความหนาวเย็นคือความหนาวเย็นในหัวใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่เยือกเย็นที่ทำให้เขาตายไม่มีสิทธิได้เกิด เสียงร้องของเขาจึงโหยหวนที่รอคอยการมาเกิดใหม่หรือรอคอยการแก้แค้น"

"ฉะนั้นโลกใบนี้กฎหมายอะไรก็ตามที่มนุษย์สร้างขึ้นมันมีทั้งยุติธรรมและไม่ยุติธรรมเพราะคน แต่ในโลกของวิญญาณเมื่อรู้ว่ามนุษย์เราเป็นแบบนี้จึงมีคำว่าชดใช้กรรมและการชดใช้กรรมจะเกิดขึ้นได้อย่างไรใน เมื่อกฎหมายบนโลกมนุษย์เราทำอะไรเขาไม่ได้ ก็รอปีชงรอคำว่าเบญจเพสก็คือ 5 15 25 35 ถ้าในความเชื่อก็คือเวลาที่มนุษย์ดวงตก ประตูนรกจะเปิดให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้ติดตามทวงหนี้สุดท้ายแล้วกฎแห่งกรรมก็ยังยุติธรรมเสมอ"

 เนื้อหาจากการสัมภาษณ์ "ริว จิตสัมผัส" ทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณให้การอ่าน

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ จับเข่าคุยความจริง “ริว จิตสัมผัส” หากินกับเรื่องทำแท้งจริงหรือไม่?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook