ล้อมจับระทึก 10 ชั่วโมง! หนุ่มคลั่งปืนจี้แม่-เมีย ขังในบ้าน

ล้อมจับระทึก 10 ชั่วโมง! หนุ่มคลั่งปืนจี้แม่-เมีย ขังในบ้าน

ล้อมจับระทึก 10 ชั่วโมง! หนุ่มคลั่งปืนจี้แม่-เมีย ขังในบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุลูกชายทำร้าย จับแม่และภรรยาขังไว้ในบ้านเลขที่ 451 ซอยราชสุดา 4 ชุมชนสัมพันธ์สุข ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี  โดยคนร้ายมีอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ศิริชัย กุลวิทิต สวป.สภ.เมืองอุดธานี พร้อมกำลังตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ เดินทางไปที่เกิดเหตุ

พบ พ.ท.ประเสริฐ จาตุรงค์ ประธานชุมชน และตำรวจอาสานำชี้บ้านที่เกิดเหตุ  เป็นปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ แต่ปิดประตูเหล็กหน้าร้านล๊อคด้วยกุญแจ 3 ตัว แต่เปิดประตูรั้วเอาไว้ ซึ่งเป็นบ้านอดีตข้าราชการป่าไม้ แต่เสียชีวิตไปเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้บ้านมีผู้อาศัยอยู่ 3 คือ นางวรรณภา อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน นายวรพจน์ อายุ 37 ปี บุตรชาย และ น.ส.ละอองดาว อายุประมาณ 20 ปี  ภรรยานายวรพจน์ แม่และภรรยาถูกนายวรพจน์ทำร้ายและปิดประตูขังไว้ในบ้าน ซึ่งหน้าบ้านจะมีกล้องจรปิด 5 ตัว

ต่อมาอดีตข้าราชการป่าไม้เพื่อของสามีเจ้าของบ้าน เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ได้รับโทรศัพท์จากนางวรรณภา ว่าบุตรชายทำร้ายลูกสะใภ้และตนเอง และยังเอาปืนพกสั้นของสามีออกมาข่มขู่ นางวรรณภาจึงหลบเข้าไปอยู่ในห้อง บุตรชายจึงล็อคกุญแจขังไว้ และล็อตประตูรั้วหน้าบ้าน รู้สึกกลัวมากไม่กล้าออกมา ไม่รู้ชะตากรรมของลูกสะใภ้ ขอให้เพื่อนสามีแจ้งตำรวจให้ด้วย จึงโทรแจ้งพร้อมมอบหมายเลขโทรศัพท์ให้ตำรวจ

ต่อมาเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.เนติพงษ์ ธาตุทำเล รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เดินทางมาพร้อมกับที่สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี  ระบุว่านนายวรพจน์มีพฤติกรรมเสพยาบ้า เคยลูกจับกุมเสพและครอบครองยาบ้า 2 ครั้ง แต่ของกลางมีจำนวนไม่มาก ซึ่งนายวรพจน์มักจะมีอาการคุ้มคลั่ง และนำปืนออกมายิงขู่ชาวบ้านเป็นประจำ ขณะเดียวกันสามารถโทรศัพท์ติดต่อกับนางวรรณภาได้ จึงเอาถุงไปคลุมกล้องวงจรปิดด้านหน้า และให้ตำรวจนำคีมตักเหล็ก มีตัดลูกกรงหน้าต่างห้อง หลังร้านขายของออก และช่วยนางวรรณภาออกมาทางหน้าต่าง

หลังจากออกมาจากบ้านได้ นางวรรณภา เล่าว่า นายวรพจน์เป็นลูกชายคนโต เคยไปทำงานที่ป่าไม้จังหวัดอุดรธานีกับพ่อ หลังพ่อเสียชีวิตก็ได้ออกจากงาน และเคยถูกตำรวจจับข้อหาเสพและครอบครองยาบ้า 2 ครั้ง พึ่งพ้นโทษออกมา และมักจะอาละวาดตนและเมียตลอด วันนี้เหตุการณ์เกิดตั้งแต่เวลา 12.00 น.  นายวรพจน์มีอาการมึนเมาสุรา ได้อาละวาดทำร้ายตนและเมีย ตนได้หนีเข้ามาอยู่ในห้อง ทำให้นายวรพจน์นำกุญแจมาล็อคห้องไม่สามารถออกมาได้ ตนได้ยินเสียงร้องของ น.ส.ดาว ลูกสะใภ้ตลอด คาดว่านายวรพจน์จะทำร้ายเมียแน่นอน ตนจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสามีให้แจ้งตำรวจมาช่วย     

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ตัดสินใจบุกเข้าไป เพราะนายวรพจน์มีอาการมึนเมา ซึ่งไม่แน่ใจว่าเมาสุรา หรือเมายาบ้า อีกทั้งยังมีอาวุธปืน และเกรงว่าตัวประกันจะได้รับอันตราย ตำรวจจึงได้ใช้วิธีละมุนละม่อม ได้นำเพื่อน แม่ และแม่ยายของนายวรพจน์ มาเจรจา ผ่านโทรโข่ง ให้ออกมามอบตัวกับตำรวจ และจะไม่เอาเรื่อง และไม่ให้ตำรวจดำเนินคดี แต่นายวรพจน์ยังอยู่ในบ้านเงียบไม่มีเสียตอบโต้แต่อย่างใด

พ.ต.อ.เนติพงษ์ ธาตุทำเล รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี  เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเพื่อช่วยเหลือตัวประกันตั้งแต่ 16.00-19.00 น. ซึ่งได้ช่วยนางวรรณภาออกมาได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวภายในบ้าน ทำให้เรายังต้องปิดล้อมบ้านไว้ ยังไม่ส่งตำรวจบุกเข้าไป โดยใช้การเจรจาให้ออกมามอบตัว เพราะแม่บอกว่าลูกชายมีปืน เอาลูกสะใภ้เป็นตัวประกัน ต้องใช้เวลาในการเจรจาต่อไปก่อน

ต่อมาเวลา 20.00 น. พ.ต.อ.เนติพงษ์ ธาตุทำเล รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี ได้ประสานขอชุดคอมมานโด ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 9 นาย เดินทางมาช่วย น.ส.ละอองดาว ตัวประกัน ซึ่งทราบเบื้องต้นว่าถูกนายวรพจน์ซ้อมได้รับบาดเจ็บ เวลา 20.15 น. ได้โยนแก๊สน้ำตาลูกแรกเข้าทางประตูหน้าบ้านเข้าไปในบ้าน แต่ในบ้านยังเงียบสนิท กระทั่งเวลา 20.30 น.ตำรวจได้โยนแก๊สน้ำตาลูกที่ 2 เข้าทางหน้าต่างหลังบ้าน และได้ยินเสียงขึ้นลำกล้องปืน จึงได้ถอยออกมา และเหตุการณ์ในบ้านยังนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว

เวลา 22.15 น. ตำรวจพบเห็นนายวรพจน์ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนขายาวตัวเดียว เหน็บอาวุธปืนสั้นที่เอว ได้กระโดดออกมาจากห้องใต้หลังคา กระโดดลงหลังคาครัว และกระโดดลงพื้นวิ่งหลบหนีเข้ามาในบ้านเลขที่ 414 ซึ่งอยู่ติดกันและนางวรรณภาได้มาพักอาศัยหลบอยู่กับเพื่อนบ้าน ซึ่งมีคนแก่และคนป่วยอาศัยอยู่ ตำรวจต้องขนย้ายผู้ป่วยและนางวรรณภา ซึ่งอยู่ในอาการช็อกตกใจออกมาจากบ้าน และนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่นายวรพจน์ก็ได้วิ่งย้อนกลับเข้าบ้านตัวเอง และหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านอีกครั้ง

เวลา 22.45 น.โยนแก๊สน้ำตาเข้าไปอีก 1 ลูก แต่ยังไม่พบความเคลื่อนไหวภายในบ้าน  กระทั่งเวลา 00.15 น. หน่วยคอมมานโดได้สวมหน้ากากกันแก๊สน้ำตา บุกเข้าไปช่วย น.ส.ละอองดาว ตัวประกัน ซึ่งนอนได้รับบาดเจ็บอยู่บนเตียงนอนในห้อง  เพราะถูกนายวรพจน์ซ้อม จนไม่สามารถลุกได้ ซึ่งตำรวจที่บุกเข้าไปช่วยได้อุ้ม น.ส.ละอองดาวออกมา จนถูกแก๊สน้ำตาเข้าตาและหายใจติดขัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธาธรรม ได้รับตัว น.ส.ละอองดาว ต่อจากตำรวจ ส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พบว่าตามร่างกายมีร่องรอยปูดบวมเขียวช้ำเพราะถูกทำร้าย

หลังช่วยตัวประกันได้แล้ว ตำรวจได้ปิดล้อมบ้านเอาไว้ พร้อมกับเปิดไฟสปอร์ตไลท์ส่องสว่าง แต่ให้เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าตัดสัญญาณไฟภายในบ้าน และได้เปิดฝ้าเพดานทุกแผ่นเพื่อหาตัวนายวรพจน์ ซึ่งมีห้องลับดัดแปลงอยู่ใต้เพดาน แต่ก็ไม่พบ แต่ตำรวจก็ไม่ลดละในการค้นหา กระทั่งเวลา 02.35 น. วันที่ 20 ธันวาคม หลังจากแก๊สน้ำตาจางลง ตำรวจเข้าไปตรวจค้นพบนายวรพจน์ หลบซ่อนตัวอยู่ภายในตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนแม่ สภาพสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว และไม่พบอาวุธปืน 9  มม. ซึ่งนายวรพจน์อ้างว่า ขณะวิ่งหลบหนีตำรวจปืนได้หล่นหายแล้ว

ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวรพจน์ ไปโรงพัก เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ” หากตรวจค้นและพบอาวุธปืนจะแจ้งข้อหา” มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ ล้อมจับระทึก 10 ชั่วโมง! หนุ่มคลั่งปืนจี้แม่-เมีย ขังในบ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook