"ก้อย รัชวิน" ปัดวิ่งเพื่อพิสูจน์รักแท้ รับตกใจตอน "ตูน" โดนชนล้ม
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/ns/0/ud/424/2121082/Koi101.jpg"ก้อย รัชวิน" ปัดวิ่งเพื่อพิสูจน์รักแท้ รับตกใจตอน "ตูน" โดนชนล้ม

"ก้อย รัชวิน" ปัดวิ่งเพื่อพิสูจน์รักแท้ รับตกใจตอน "ตูน" โดนชนล้ม

2016-12-11T11:27:13+07:00
แชร์เรื่องนี้

"ก้อย รัชวิน" ปัดวิ่งเพื่อพิสูจน์รักแท้ ยันแค่เป็นกำลังใจให้กัน รับตกใจ "ตูน" โดนชนล้ม ขอบคุณคนร่วมบริจาค โครงการ #ก้าวคนละก้าว ทะลุ 70 ล้าน

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกำลังใจของหนุ่ม "ตูน บอดี้เเสลม" ผู้นำ "โครงการ #ก้าวคนละก้าว" วิ่งการกุศลเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน อย่างสาว "ก้อย รัชวิน" ที่ตลอดการเดินทางสาวเจ้าเองก็คอยช่วยเหลือหนุ่มตูนตลอดเวลา แบบนี้เรียกว่าเป็นการพิสูจรักแท้หรือเปล่าน๊า ได้เจอสาวก้อยก็ต้องขออัปเดตถึงกิจกรรมนี้ รวมถึงอาการบาดเจ็บของแฟนหนุ่มซักหน่อยจ้า

ก้อย รัชวิน เปิดเผยว่า ดีใจแทนหนุ่มตูนและก็ดีใจแทนคนไทยทุกคน ที่มองเห็นถึงความสำคัญของโครงการ และก็มองเห็นสิ่งที่พี่ตูนทำ จนทำให้ตลอด 10 วันที่ผ่านมา เราได้เห็นว่าระหว่างทางมันมีมิตรภาพที่ดีๆ เกิดขึ้น มีกำลังใจดีๆ มีเสียงเชียร์ มีน้ำใจจากคนไทยที่มอบให้มาตลอดไม่ขาดสาย ต้องขอบคุณคนไทยทุกๆ คนมาก

สำหรับครั้งนี้ได้มีส่วนร่วมในการวิ่งด้วย เรียกว่าทำทุกอย่างเลยก็ว่าได้ คือเจ้าเองบอก เราก็เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แล้วพี่ตูนก็เป็นแรงบันดาลใจ สำหรับการออกกำลังกายที่ทำให้เจ้าตัวออกมาวิ่ง เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ที่เราได้เริ่มวิ่งด้วยกัน แต่ว่าตัวพี่ตูนเขาไปไกลถึงขึ้นไตรกีฬา มาราธอน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดก็คือวิ่ง 400 กิโลเมตร ซึ่งก็ตามไม่ทันจริงๆก็เลยขอวิ่งเท่าที่เราทำได้ แล้วก็ทำอย่างอื่นที่เรียกว่าช่วยซัพพอร์ตให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินถือกล่องรับบริจาค การไลฟ์เฟซบุ๊ก เพื่อช่วยให้มันกระจายข่าวได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อถามถึงตอนที่พี่ตูนบาดเจ็บระหว่างวิ่ง ก้อย ก็เผยว่า ตอนนั้นรู้สึกตกใจ คือตลอดการวิ่งที่ผ่านมาถามเขาว่าเหนื่อยไหม เขาก็จะไม่ค่อยบอกว่าเหนื่อย จะบอกว่าไหวๆ ได้อยู่ๆ แต่ว่าช่วงหลังจากวันที่ 7-8 เขาเริ่มมีอาการบาดเจ็บและอย่างที่ทุกคนทราบกัน มันมีอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้เขาเสียหลักล้ม แต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้เจ็บหรือข้อเท้าแพลง

แต่เราคนที่นั่งอยู่มองเห็นจากการไลฟ์อยู่ ใจหายมาก คือเราเห็นภาพเขาล้มลงไปบนพื้นแล้วก็นิ่งไป 5 วิ แล้วลุกขึ้นมาต่อ ตอนนั้นรีบวิ่งลงจากรถมาดูอาการ ก็โอเคเห็นว่าเขาเดินต่อได้ แล้วก็มีคุณหมอมาช่วยเอาสเปรย์ฉีดกล้ามเนื้อช่วยบรรเทาอาการเจ็บ แล้วก็โอเค ผ่านไปได้ในก้าวนั้น

แต่คือตอนนั้นตกใจ ถ้าคนที่มาอยู่แบบก้อยทุกๆ วัน เราเห็นภาพเขาแบบวิ่งมุ่งมั่น เห็นความตั้งใจของเขาในทุกๆ วัน แล้วอยู่ๆ มาวันหนึ่งเขาล้มลงไป เราก็นิ่งดูดายไม่ได้ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง เราไม่รู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าเราก็จะวิ่งไปดู เราก็ช่วยเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ตอนนั้นคืออินเทอร์เน็ตสัญญาณขาด ทางบอดี้แสลมแบนด์ก็ไม่ได้ไลฟ์ ตัวมือถือตัวเองแบตก็เหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ เราก็แบบจะทำยังไงดี เราอยากให้บรรยากาศมันสดๆ อยากให้ทุกคนได้ร่วมรับรู้และได้แชร์เรื่องราวในตอนนั้น

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ล้มผ่านไป เขาก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เขาก็รู้สึกว่า คือทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวพี่ตูนเอง หรือว่าตัวก้อยเองและทีมงาน ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ระหว่างในการทำงานครั้งนี้ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง

วิ่งบนท้องถนน มันจะมีเรื่องของปัญหาการจราจรที่เราเป็นห่วงมาก แล้วก็เราแก้ไขปรับเปลี่ยนทุกวันที่เราวิ่ง มีหน่วยงานต่างๆ มาช่วยกัน ทำให้การวิ่งมันรัดกุมมากขึ้น อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการวิ่ง หรือว่าแม้แต่ช่วงตอนวิ่งตอนกลางคืน ก็เป็นห่วง เพระว่าทั้งตัวนักวิ่งเอง และตัวคนที่มาถ่ายรูปเอง สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องความปลอดภัยล้วน ๆ ก็เลยค่อนข้างที่จะเป็นห่วง ในช่วงระหว่างทางที่ผ่านมา

ถามถึงความรู้สึกที่เห็นยอดเงินบริจาค 70 ล้าน สาวก้อย กล่าวต่อว่า หายเหนื่อย จริงๆ แล้วทุกๆ วันมันมีเรื่องให้หายเหนื่อยตลอดเวลา คือระหว่างทางเราเจอเรื่องดีๆ เจอความทรงจำที่น่าประทับใจ เจอเด็กน้อยที่นำเงินมามอบให้ เจอคนเฒ่าคนแก่ที่เขาเอาเงินมามอบให้เรา

หรือแม้กระทั่งมีครั้งหนึ่งเจอคนป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ เขาเดินกำเงิน 100 บาท มามอบให้เรา เราเห็นแล้วก็รู้สึกแบบมันทำให้เห็นว่าจิตสำนึกของคนไทยจริงๆ แล้วทุกคนมีความเสียสละ และความเป็นผู้ให้อยู่ในตัว แต่ในวันนี้เราได้ออกมาจุดประกายการเป็นผู้ให้ของทุกคน ในทุกๆ เพศทุกๆ วัย ในทุกที่จริงๆ แล้ววันนี้มันแสดงให้เห็นว่าเงินเล็กๆ น้อยๆ 5-10 บาท มันรวมกันเป็น 70 ล้าน มันยิ่งใหญ่แค่ไหน

สาวก้อย เสริมต่อว่า พี่ตูนใช้ร่างกายมาหนักหน่วงมาก ก็สิ่งที่ทำๆ ได้ดีที่สุด คงเป็นกำลังใจสำคัญ เพราะว่าเราเองก็ไม่ได้มีความสามารถดัดร่างกาย หรือกายภาพบำบัด คงต้องให้คุณหมอดูแล และให้เขาช่วยรักษาพี่ตูน ตลอดเวลาเราก็คอยเป็นแรงซัพพอร์ตที่ดี และช่วยเขาทุกอย่างเท่าที่เขาอยากจะให้เราทำ

คือสุดท้ายแล้ว ณ จุดเริ่มต้นของเป้าหมายมันอาจจะมาจากตัวพี่ตูน อาจจะมาจากโรงพยาบาล แต่ว่าพอมาอยู่ตรงนี้แล้ว มันเหมือนเขาเป็นคนทำให้เป้าหมายของทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วเขาก็อยากจะทำทุกอย่างด้วยความสุขความเต็มใจ โดนที่เราไม่ได้คิดว่า สิ่งนี้เราต้องทำเพื่อพี่ตูน เราทำเพื่อทุกคน ทำเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน อยากจะให้ทุกๆ คนที่มาให้กำลังใจ มาเชียร์เรา เขาได้รับความสุขเท่าที่เราจะมอบให้ได้ คือวันๆ ที่เราอยู่ตรงจุดนัดพบ และถือกล่องรับบริจาค แล้วมีคนมาถ่ายรูปอะ คือมันเป็น 10 วันแห่งการให้จริงๆ

ทั้งนี้ สาวก้อย ยังบอกอีกว่า การวิ่งครั้งนี้ไม่ได้คิดว่าเป็นการพิสูจน์อะไร รู้สึกว่าตลอดที่คบกันมา เราก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะไปทำอะไร เขารักในสิ่งไหนก็รักด้วย ซัพพอร์ตด้วย แล้วก็อยากจะเห็นเขาทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จ ถึงวันนี้เราคงไม่ต้องมาพิสูจน์อะไร เราทำให้เห็นดีกว่า ไม่ต้องบอกอะไรดีกว่า

สุดท้ายฝากขอบคุณทุกคนที่มองเห็นโครงการก้าวเล็กๆ ก้าวนี้ จากก้าวเล็กๆ ที่เริ่มต้นกันมา 10 วัน มันกลายเป็นก้าวที่ใหญ่ขึ้น เพราะว่าทุกคนออกมาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมบริจาคเองหรือการแชร์ผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ การเป็นพี่ๆ น้องๆ ที่ออกมาให้กำลังใจ มาส่งเสียงเชียร์ก็ขอบคุณทุกแรงกายแรงใจ ทุกเงินบริจาคที่ร่วมมาให้เราในวันนี้และก็ขอให้การให้ในครั้งนี้จุดประกายว่าทุกคนสามารถเป็นผู้ให้ได้ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เริ่มจากคนใกล้ชิดคนใกล้ตัวของคุณเอง และอยากให้มองเห็นถึงโรงพยาบาลอื่นที่มีความขาดแคลนเช่นเดียวกัน

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "ก้อย รัชวิน" ปัดวิ่งเพื่อพิสูจน์รักแท้ รับตกใจตอน "ตูน" โดนชนล้ม

ขอขอบคุณ

ภาพ :@rachwinwong