เดินตามรอยพ่อ "100 โรงเรียนเกษตรพอเพียง"

เดินตามรอยพ่อ "100 โรงเรียนเกษตรพอเพียง"

เดินตามรอยพ่อ "100 โรงเรียนเกษตรพอเพียง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความพอเพียงในแบบฉบับของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เห็นผลจนเป็นที่ประจักษ์ว่าสิ่งที่ พ่อหลวงของคนไทย ได้ให้ไว้ช่างอุดมไปด้วยคุณค่า

คนไทยจำนวนมากได้น้อมนำปรัชญาของพระองค์ท่าน มาประบใช้ในการดำรงชีวิต เพื่อการกินดีอยู่ดีของแต่ละครอบครัว

มาวันนี้บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้น้อมนำทฤษฎีเกษตรผสมสานมาปรับใช้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการจัดทำโครงการ "100 โรงเรียนเกษตรพอเพียง"


ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการร่วมสืบสานพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาด้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักปรัชญาด้านเศรษฐกิจ ที่ได้พระราชทานไว้ให้กับคนไทย เมื่อครั้งประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงในปี 2540 และหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

สามารถพลิกฟื้นประเทศไทย ให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนั้นกลับมาแข็งแกร่งได้ โดยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ นอกจากจะเป็นหลักปรัชญาเพื่อความยั่งยืนของประชาชนคนไทยแล้วและยังเป็นหลักปรัชญาเศรษกิจพอเพียง เพื่อความยั่งยืนของโลกอีกด้วย


บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาจัดทำโครงการ “100 โรงเรียนเกษตรพอเพียง” ตามทฤษฎีเกษตรแนวใหม่ เพื่อร่วมสร้างความอยู่ดีกินดี บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเองให้กับนักเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างสรรค์สังคม ด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปันซึ่งกันและกัน อันจะนำมาซึ่งความรักความสามัคคีของชนในชาติ สมดังพระปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เคยทรงมีพระราชดำรัส "รู้รักสามัคคี"


โดยเริ่มต้นโครงการนี้ ที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่ง "ต๊อด" ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานโครงการฯ เปิดเผยว่า "การร่วมสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับนักเรียนทั่วประเทศ  เป็นการตกผลึกทางความคิดที่ต้องการให้นักเรียนใน100 โรงเรียนที่ร่วมโครงการ ได้ทำเกษตรตามทฤษฎีเกษตรแนวใหม่ อาทิ การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อนำผลิตผลที่ได้มาเป็นอาหารรับประทาน  โดยโครงการจะจัดสรรเงินเป็นงบประมาณให้โรงเรียนละสามหมื่นบาท (30,000บาท)เป็นทุนตั้งต้นในการบริหารจัดการสร้างความกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืน"
 
"โดยการเลี้ยงไก่ ต้องเลี้ยงไก่ให้สามารถออกไข่ให้นักเรียนทุกคน ต้องมีไข่ไก่ทานคนละ 1 ฟอง/วัน แต่ละมื้ออาหารต้องมีผักและเนื้อสัตว์ และนอกจากเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ยังต้องมีเหลือพอที่จะจำหน่ายให้กับนักเรียน ซื้อกลับบ้านได้ในราถาถูก รวมทั้งมีเพียงพอที่จะนำไปจำหน่ายในตลาดเพื่อสร้างรายได้และสร้างประสบการณ์ให้กับนักเรียน


อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ แนวความคิดของโครงการ 100 โรงเรียนเกษตรพอเพียงนี้ เคยมีการทดลองที่ศูนย์ภูมิปัญญาชาวบ้านสิงห์อาสาจังหวัดเชียงรายโดยครูพรรณพิมลปันคำ และครูผ่าน ปันคำ  ทั้งยังได้มีการทดลองเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนบ้านสันโค้ง ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 

โดยในการทดลองได้มีการกำหนดให้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปซื้อแม่ไก่ไข่จำนวน 100 ตัว จะออกไข่80ฟองต่อวัน ซื้อเมล็ดผักสวนครัว อาทิ ผักบุ้ง ผักคะน้า แตงกวา มาปลูก  โดยผักแต่ละชนิดให้ผลผลิตชนิดละประมาณ 10-15 กิโลกรัม  และยังให้มีการเพาะเห็ดนางฟ้าจำนวน500 ก้อนที่สามารถให้ผลผลิตก้อนละ60กิโลกรัมต่อเดือนรวมทั้งการเลี้ยงปลาดุกอีกจำนวน 800 ตัว


ภายหลังการเลี้ยงไก่ เด็กๆ จะมีไข่ทานตั้งแต่วันแรกและภายใน 2 สัปดาห์จะมีผลผลิตอื่น ๆ เช่น เห็ดผัก ส่วนปลาดุกสามารถนำไปขายที่ในตลาดได้ราคากิโลกรัมละ60 บาท เมื่อปลาดุกมีอายุ 3 เดือนโดยได้มีการสนับสนุนและส่งเสริมให้นักเรียนในโรงเรียนปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการบริหารจัดการพื้นที่ว่างในโรงเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังสามารถทำให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และยังสามารถพึ่งพาตัวเองต่อไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากจะเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนแล้ว ยังมีผลผลิตเหลือเพียงพอที่จะให้ผู้ปกครอง ได้ซื้อกลับบ้านในราคาถูกอีกด้วย

ปัจจุบันสิงห์อาสาและเครือข่ายนักศึกษาในพื้นที่ภาคกลาง ได้ร่วมกับศูนย์ภูมิปัญญาชาวบ้าน(สิงห์อาสา-สิงห์บุรี) ดำเนินโครงการ "100โรงเรียนเกษตรพอเพียง" ที่โรงเรียนวัดเพิ่มประสิทธิผล ตำบลงิ้วราย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี  ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ และจะมีการขยายต่อไปอีก100โรงเรียนทั่วประเทศไทย



สำหรับกิจกรรมของโครงการโรงเรียนเกษตรพอเพียงนั้นโรงเรียนวัดเพิ่มประสิทธิผล ได้จัดสรรพื้นที่ว่างออกเป็นส่วนๆจัดการปลูกพืชผักสวนครัว การเพาะเห็ด  ที่สามารถทำได้ง่ายมากโดยใช้วัสดุราคาถูกในการทำโรงเรือนและเพาะเห็ด  รวมทั้งยังได้สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์เพื่อที่จะสามารถนำไข่ไก่ มาใช้บริโภคเป็นอาหารสำหรับเด็กได้ และการเลี้ยงปลาดุกจากบ่อที่ใช้ผ้าใบปู ป้องกันการซึมรั่วของน้ำในบ่อ

นายปิติยังเปิดเผยด้วยว่าเมื่อมีการเปิดโครงการนี้แล้วและนำแนวคิดนี้ลงสร้างเป็นแปลงเกษตรจริง จะใช้เครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสา ระดับมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ทั่วประเทศ เป็นทีมงานลงพื้นที่ในแต่ละโรงเรียนที่อยู่ในโครงการ  เพื่อก่อสร้างโรงเลี้ยงไก่ไข่ทำแปลงเกษตรสร้างโรงเพาะเห็ดและทำบ่อเลี้ยงปลาดุก



ในเบื้องต้นบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด วางเป้าหมายสร้างโรงเรียนเกษตรพอเพียงครั้งแรกจำนวน 100 โรงเรียนในปีนี้  เพื่อให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนเกษตรพอเพียงทั่วประเทศ มีความอยู่ดีกินดี  เป็นการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงต้องการเห็นประชาชนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเองโครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยดูแลเรื่องอาหารกลางวันของนักเรียน แต่ที่สำคัญยังได้สร้างประสบการณ์มากมายนอกตำราเรียน ให้กับเด็กๆได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชน เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆและรู้จักใช้ชีวิตที่พอเพียงอีกด้วย 


"100 โรงเรียนเกษตรพอเพียง" เป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้เด็กๆ ได้เล็กเห็นถึงคุณค่าและหลักทฤษฎีเกษตรแนวใหม่ ที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์ด้วยตัวของพวกเขาเอง

เครดิต : Singha Corporation 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook