หนุ่ม-ฝ้าย น้ำตาคลอ! เล่าวินาทีชีวิตต้องเข้มแข็งเพื่อ..น้องอดัม

หนุ่ม-ฝ้าย น้ำตาคลอ! เล่าวินาทีชีวิตต้องเข้มแข็งเพื่อ..น้องอดัม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับอาการครรภ์เป็นพิษจนต้องแอดมิดโรงพยาบาลอยู่หลายวัน และได้ให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง "น้องอดัม" ด้วยวิธีการผ่าคลอดก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ล่าสุดครอบครัว "หนุ่ม อรรถพร" พร้อมภรรยาสาว "ฝ้าย อริญดา" ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับความรู้สึกตั้งแต่วันที่แอดมิดจนถึงวันที่ได้เห็นหน้าลูก โดยสาวฝ้ายได้เล่าทั้งน้ำตาว่า ในวินาทีนั้นความเป็นความตายมีเปอร์เซ็นต์เท่ากัน!

ฝ้าย - คลอดเมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมาค่ะ ตอนนี้ถือว่าการดีขึ้นจากที่เคยได้แอดมิดบ่อยๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ ถ้าถามว่าแอบกลัวไหม กลัวตั้งแต่วันที่โดนแอดมิดค่ะ อยู่ดีๆ ความดันก็ขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ผ่านมาเราก็ทำทุกอย่างปกติเพียงแค่ตัวบวมขึ้น แต่มันก็คือเรื่องปกติของคนท้องอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่อันตรายหรืออะไร แต่พอเดินทางมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็สั่งให้แอดมิดเลย ยอมรับค่ะว่าตอนนั้นตกใจมาก เพราะตั้งใจแค่มาหาคุณหมอปกติแต่คุณหมอกลับบอกว่าไม่ให้กลับบ้านแล้ว เนื่องจากว่าสถานการณ์ตอนนั้นอันตรายมากลูกอาจจะไม่ได้อยู่กับเราอีกและแม่ก็อาจจะเสียชีวิตเลยก็ได้ เพราะอาการที่เกิดขึ้นตอนนั้นมันอาจทำให้เส้นสมองแตกได้ด้วย

ตอนแรกที่คุณหมอสันนิษฐานก็คาดว่าน่าจะเป็นอาการของครรภ์เป็นพิษ พอตอนท้องอันดาก็เป็นมาแล้ว และพอมาท้องนี้มันก็เลยเกิดขึ้นซ้ำ เพียงแต่มีความดันเพิ่มขึ้น แต่ก็โชคดีค่ะที่เราอยู่ในความดูแลของคุณหมอมาตั้งแต่แรก จนมาถึงช่วง 8 เดือน ความดันขึ้นสูงมากแต่มันไม่มีอาการมึนหัวหรืออาการใดๆ เลยนะคะ แค่คุณหมอบอกว่ามันอันตรายอาจทำให้ช็อคได้เลยต้องให้แอดมิดก่อน

เพราะเหตุผลนี้เลยทำให้เราตัดสินใจผ่าคลอดก่อนกำหนดเลยใช่ไหม ?
ฝ้าย - ก็อยากให้ไวที่สุดค่ะ จริงๆแล้วกำหนดคลอดคือวันที่ 14 พฤศจิกายน แต่เราอยู่ที่โรงพยาบาลนานแล้วพอตรวจว่าลูกแข็งแรงก็อยากให้รีบออกมา วินาทีนั้นมันลุ้นทุกๆ ชั่วโมงจริงๆ ก่อนหน้านี้ฝ้ายจะไปๆ กลับๆ โรงพยาบาลและบ้านตลอด
หนุ่ม - ผมก็เครียดครับ เพราะถ้าใครรู้ภาวะที่เขาเป็น มันคือเรื่องใหญ่ มันเป็นเรื่องของชีวิตเลยครับ ตอนนั้นตัวผมเองก็ทำงานไม่ค่อยได้สติจะไม่ค่อยมีต้องรีบกลับมาดูแลภรรยาก่อน ถามว่าผมกลัวไหมตอนนั้นก็กลัวนะครับ แต่ผมต้องให้กำลังใจภรรยาก่อน

สุขภาพร่างกายของน้องตอนนี้ถือว่าแข็งแรงดีแล้วใช่ไหม ?
ฝ้าย - สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ คุณพยาบาลบอกว่าก่อนหน้านี้น้องสำลักเลือดในครรภ์เยอะ ภาวะตอนที่ตั้งครรภ์ฝ้ายทานยา เบบี้ แอสไพลิน เยอะ เพราะฝ้ายต้องกินเพื่อขยายหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไหลเลี้ยงลงไปสู่ตัวเด็กแล้วทำให้เด็กเติบโต
หนุ่ม - คืออันตรายของตัวยานี้ มันคอยสลายลิ่มเลือด เมื่อได้กินเข้าไปแล้ว แล้วเรามีแผลหรือปล่อยให้เลือดไหลเลือดมันก็จะไหลไม่หยุดถ้าหากใครคิดจะกินต้องระวังนะครับ แต่ถ้าถามถึงอนาคตมันก็จะไม่ได้ส่งผลอะไรถึงตัวน้อง เพราะเท่าที่คุยกับคุณหมอมันจะมีแค่จังหวะช่วงแรกที่เขาต้องปรับตัว แต่ก็ถือว่าตอนนี้มันผ่านไปได้ด้วยดีแล้วครับ

แล้วสำหรับตัวคุณคุณแม่เองตอนนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้าง ?
ฝ้าย - สำหรับตัวฝ้ายตอนนี้กำลังรักษาเรื่องความดันอยู่ค่ะเพราะว่าเพิ่งจะเข้าได้แค่ 2 วันเอง แต่เมื่อวานความดันก็ลดลงมานิดนึง แต่มันก็ยังอันตรายอยู่ซึ่งคุณหมอก็ได้ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด คือว่าก่อนหน้านี้ตอนระหว่างที่แอดมิดคุณหมอไม่ให้เดินเลยค่ะ คุณหมอจะให้นอนอยู่บนเตียง งดอาหารที่มีรสชาติใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าตัวฝ้ายตอนนั้นบวมมากเลยค่ะ มันเหมือนลูกโป่งที่มันตึงแล้วกดไม่ลง
หนุ่ม - ภาพที่ผมเห็นตอนนั้นผมก็เครียดนะครับ ในหัวคิดอยู่ตลอดเวลาหรือว่าจะทำยังไงต่อไปดี แต่สุดท้ายผมก็เชื่อใจหมอว่าคงดูแลได้อย่างดีที่สุดและคงไม่เกิดเรื่องร้ายๆอะไรขึ้น แต่ถ้าถามว่าผมเครียดไหมแน่นอนครับผมก็ต้องเครียดอยู่แล้ว ความดันเขาสูงขนาดนั้นมันพร้อมตายด้วยตลอดเวลา

นอกจากเรื่องความดันแล้วยังมีอะไรที่ต้องระวังอีกไหม ?
ฝ้าย - หลังจากที่คลอดออกมาแล้วก็ลงไปนิดนึงค่ะ เพราะอย่างน้อยลูกก็ปลอดภัยแล้ว ส่วนตัวแม่ก็ต้องดูแลเรื่องความดันต่อไปซึ่งไม่รู้ว่ามันจะหายหรือจะต้องเป็นต่อไปอีกเรื่อยๆ

วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูกรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
หนุ่ม - ดีใจมากครับ
ฝ้าย - ตอนที่นอนอยู่แล้วคุณหมอบอกว่า ถ้าหากความดันมันขึ้นสูงมากให้สลบไปเลยนะ (เสียงสั่น) ตอนนั้นกลัวตายมากค่ะ (น้ำตาไหล) กลัวว่าถ้าหลับไปแล้วหายไปเลยล่ะ

ตอนนี้ก็ถือว่าโล่งแล้วใช่ไหมเพราะว่าแข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก ?
หนุ่ม - ถึงว่าดีครับน้องก็แข็งแรงเป็นปกติเลยได้เข้าตู้อบเพื่อปรับอุณหภูมิอยู่แปบนึง แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติหรือร้ายแรงจนเกิดอันตราย เพราะว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของคุณหมอที่ดูแลได้ดี

น้องอันดาได้เจอน้องอดัมแล้วเป็นยังไงบ้าง ?
หนุ่ม - กระโดดเลยครับ ยิ้มดีใจเพราะเขารอเจอน้องมาตั้ง 9 เดือน เขาพยายามจะเข้าไปจับเข้าไปเล่นกับน้องด้วย แต่คือเขายังเล่นไม่เป็น แต่ว่าตอนนี้เริ่มรู้แล้วมีขออุ้มบ้าง ส่วนเรื่องน้ำหนักแรกคลอด คือ 2984 กรัม

จะมีแพลนเรื่องน้องคนที่ 3 เลยไหม ?
หนุ่ม - พอแล้วครับถ้าถามว่าอยากมีไหมใครๆ ก็คงอยากจะมีลูกเยอะๆ แต่สำหรับครอบครัวผมมันลำบากแล้วยิ่งต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าไม่อยากให้มีอีก แต่ว่าตอนนี้ฝ้ายทำหมันเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าผ่าคลอดคุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำเลยทีเดียว ส่วนตัวผมคุณหมอก็บอกให้ทำครับ ก็ตั้งใจว่าจะทำกันทั้งคู่เลยเพียงแต่ว่าผมก็ต้องรอเวลา

ชื่อจริงของน้องได้ตั้งแล้วหรือยัง ?
หนุ่ม - เรียบร้อยแล้วครับน้องชื่อว่า "ธนพิสิฐ" คุณตาเป็นคนดูให้ ซึ่งความหมายก็คือ คนที่ร่ำรวยความสุข ส่วนชื่อเล่น น้องอดัม หลายคนถามว่าหน้าตาแบบนี้ทำไมถึงตั้งชื่อลูกเหมือนฝรั่ง จริงๆ ชื่อนี้น้องอันดาเป็นคนตั้งให้ครับ ตอนแรกเขาจะตั้งให้ว่า น้องโอลาฟ ซึ่งผมก็พยายามแล้วแล้วก็ได้ชื่ออดัมนี่แหละครับ ผมคิดว่าเขาน่าจะเอามาจากการ์ตูนที่เขาชอบดู

ในฐานะที่เราเป็นลูกพ่อหลวง และเราเองก็เป็นพ่อคนที่เราตั้งใจจะน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาบอกลูกยังไงบ้าง ?
หนุ่ม - ผมเคยคิดไว้เล่นๆ นะครับ หากทั้งคู่เริ่มรู้เรื่องเมื่อไหร่ ผมก็จะเล่าคำสอนของในหลวงวันละข้อให้ลูกได้ฟัง

เห็นว่าเราเองก็เคยมีความประทับใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพากย์เสียง บทพระราชนิพนธ์พระมหาชนกด้วย ?
หนุ่ม - ผมเคยทำหนังสั้นเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงเมื่อปีที่แล้ว 2 เรื่องด้วยกันคือ เรื่องเจ้าชายป้อม และอีกเรื่องหนึ่งคือบ้านของบุญเหม็น ซึ่งผมก็เคยได้พากย์เสียงเป็นพระมหาชนกในการ์ตูนอนิเมชั่น ถือว่าเป็นบุญในชีวิตผมมากครับ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ หนุ่ม-ฝ้าย น้ำตาคลอ! เล่าวินาทีชีวิตต้องเข้มแข็งเพื่อ..น้องอดัม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook