อำนาจ ความน่าเชื่อถือ และ ครอบครัวนักการเมือง

ช่วงนี้ในภาพรวมของ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยส่วนตัวต้องบอกว่า กระแสความนิยมยังร้อนแรง ล่าสุดความนิยมทิ้งห่างอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ผ่านมาแบบห่างชั้นหลายคะแนนทีเดียว ก็ต้องยอมรับว่า นั้นเป็นภาพลักษณ์ เป็นความนิยม ของประชาชนจากการสำรวจ ซึ่งคนที่เขามองเห็นอย่างไรเขาก็สะท้อนออกมาอย่างนั้น

แต่อย่าหลงนึกว่าสิ่งเหล่านี้คือความจีรังยั่งยืน อย่าได้คิดเชียวว่าความนิยมจะไม่มีวันตก หากหลงคิดอย่างนั้น เท่ากับไม่เข้าใจธรรมชาติของการเมือง

แม้ว่ากระบวนการเข้ามาบริหารบ้านเมืองของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์จะมาด้วยวิธีที่ไม่ปรกติ เป็นการใช้อำนาจในการยึดอำนาจ แต่ด้วยเหตุที่การเมืองในระบบ ความขัดแย้งต่างๆ ทำให้กระแสตอบรับของการเข้ามาใช้อำนาจและสามารถคลีคลายปัญหาได้รับการตอบรับค่อนข้างดี และตลอดระยะเวลาของการบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับว่าผลงานในหลายด้านค่อนข้างเข้าตาและได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ จนเป็นที่มาของกระแสคะแนนนิยมที่แซงอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆไปค่อนข้างมาก

วันนี้ เมื่อเส้นทางการเมืองไทยกำลังเดินหน้าไปสู่โหมดการเลือกตั้ง ตามกรอบของรัฐธรรมนูญใหม่ ที่กำลังจะคลอดออกมา หลังผ่านประชามติ และกระแสเรียกร้อง กระแสความนิยมที่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารบ้านเมืองต่อหลังจากมีการเลือกตั้ง

ขณะเดียวกันกลุ่มการเมืองขั้วอำนาจเดิม ภายใต้ขั้วของทักษิณ ชินวัตร กำลังย่ำแย่ ผลจากการกระทำผิดทางกฎหมายในหลายๆคดีกำลังส่งผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้แกนนำของกลุ่มการเมืองหมดอำนาจลง เพราะอาจถูกโทษอาญาติดคุกติดตาราง ถูกยึดทรัพย์ จากผลของการกระทำผิดกันไปหลายต่อหลายคน

ดังนั้น ในช่วงเวลาแบบนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่บรรดากลุ่มการเมือง กลุ่มขั้วอำนาจเดิมจะต้องดิ้นรนต่อสู้ เพื่อพยายามคงสถานะเดิมของตนไว้ให้ได้ ดังนั้นกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และเป็นธรรมดา หากกระบวนการกระชากความนิยมพล.อ.ประยุทธ์ ลง หากไม่มีจุดให้ทำลายล้างลงได้ คนสนิทรอบข้าง ซึ่งไม่ระมัดระวังตัวย่อมถูกลากถูกสาวออกมาเพื่อโยงใยและทำลายความน่าเชื่อถือ พล.อ.ประยุทธ์ลง ดังนั้น บรรดาญาติพี่น้อง ลูกหลานจึงเป็นเป้าหมายที่ถูกลากลงมาเพื่อเชื่อมโยง เพื่อบั่นทอน พล.อ.ประยุทธ์ลง จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมาย

เพราะนี่คือ วิถีของการเมือง เป็นวิถีที่ทุกคนจะถูกตรวจสอบ จะถูกลากเชื่อมโยงกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น ความบกพร่องของ ครอบครัวโดยตรงหากไม่มี ก็ต้องไปลากคนในครอบครัวน้อง ญาติ คนใกล้ชิดออกมาแฉกัน ซึ่ง วันนี้ข่าวของครอบครัวน้องชายนายกรัฐมนตรีที่ถูกลากถูกแฉ จึงเป็นเรื่องปรกติ ในวิถีการเมือง

และบอกได้เลยว่า เรื่องนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นท่านั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ คิดจะลงมาในสนามการเมืองจริง ภายในวิถีของการเลือกตั้งตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจพิเศษคุ้มครอง รับรองได้ว่าสิ่งที่ไม่เคยคิด ไม่เคยคาด จะทยอยออกมาอีกเยอะ และนี่คือการเมืองสำหรับการลากการแฉวันนี้เป็นเพียง บทเริ่มต้นเท่านั้น ของจริงยังมีอีกเยอะ

โดย....เปลวไฟน้อย