สธ.พัฒนาห้องแล็บวิเคราะห์สารเคมีในพืช500ชนิด

รมว.สธ. เผย พัฒนาห้องปฏิบัติการสารเคมีป้องยาศัตรูพืชในผลไม้ไทย ได้มากถึง 500 ชนิด เพื่อการส่งออก
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมซึ่งมีการเพาะปลูกพืชอาหารหลายประเภท ทั้งเพื่อบริโภคในประเทศและส่งออก ดังนั้น คุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิตทางการเกษตรจึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและสุขภาพของผู้บริโภคในวงกว้าง ปัจจุบันการผลิตพืชอาหารหลายชนิดกำลังประสบปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษ
อันเกิดจากการตกค้างของสารเคมีที่ใช้ทางการเกษตร เนื่องจากเกษตรกรนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นการผลิตเชิงการค้าในปริมาณมากจึงต้องมีการดูแลอย่างเข้มข้น ดังนั้น การลดความเสี่ยงจากความเสียหายของผลผลิตจึงจำเป็นต้องพึ่งพาสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชในปริมาณสูง ส่งผลให้ ผัก ผลไม้ และสมุนไพรที่ประเทศไทยส่งออกไปจำหน่ายในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงตรวจพบสารเคมีตกค้างในกลุ่มสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชอยู่เป็นจำนวนมาก มีผลทำให้สินค้าไทยต้องชะลอการส่งออก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ปัญหาหนึ่งที่พบคือ วิธีการตรวจวิเคราะห์สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชในประเทศไทยยังไม่ครอบคลุมตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า ซึ่งมีมากกว่า 500 ชนิดสารเคมี จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาห้องปฏิบัติการของไทยให้สามารถตรวจวิเคราะห์สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชให้ได้อย่างน้อย 500 ชนิด สำหรับตรวจผัก ผลไม้ และสมุนไพร ตามมาตรฐานสากล อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขต้องการให้คนไทยรับประทานผักผลไม้ให้พอเพียงเพื่อสุขภาพ การพัฒนาให้ไทยสามารถตรวจยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ได้ตามมาตรฐานโลก จะทำให้คนไทยค่อย ๆ ไว้วางใจบริโภคผักและผลไม้ซึ่งดีต่อสุขภาพ เพิ่มมากขึ้นด้วย