ฟ้า บาร์บี้ แถลงน้ำตาท่วม ยืนยันถูก โตส ทำร้ายบอบช้ำทั้งตัว
กำลังดราม่าในโลกโซเชียลฯ เลยทีเดียว สำหรับกรณีดราม่าแซ่บๆ ของ "โตส อรัสมันต์ จิตตะศิริ" เด็กปั้นเบอร์ล่าสุดของผู้กับปากกรรไกร "พจน์ อานนท์" หลังอดีตแฟนสาวเปิดฉากแฉแหลกผ่านเฟซบุ๊คอ้างว่าถูกนักแสดงหนุ่มทำร้ายร่างกาย พร้อมโชว์ภาพถ่ายหลักฐานที่เผยให้เห็นรอยฟกช้ำตามจุดต่างๆ และเอกสารลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย เมื่อช่วงเย็น ของวันที่ 20 กรกฎาคม
ขณะที่กระแสในโลกโซเชียลฯ ก็ได้มีการนำแชทส่วนตัวซึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง "โตส" และ "พจน์ อานนท์" ออกมาเผยแพร่ อีกทั้งยังมีการระบุด้วยว่าผู้กำกับชื่อดังเป็นคนสั่งให้นักแสดงในสังกัดของตนเป็นฝ่ายยุติความสัมพันธ์ เพราะเกรงว่าหากคบกันต่อไปจะมีผลกระทบต่อการทำงานในวงการ
รวมถึงเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (21 ก.ค.) ทางด้านของ "โตส อรัสมันต์" ก็ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกายดังกล่าว ณ สน.โชคชัย พร้อมเผยความรู้สึกกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนเดินทางมาครั้งนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจและก็ไม่เคยกระทำการอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งในวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม ตนก็จะออกมาแถลงข่าวเพื่อชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดกับสื่อมวลชนอย่างแน่นอน!!
แต่ล่าสุดเน็ตไอดอลสาว "น้องฟ้า วิศัลย์ศยา ภคศุภกุล" ก็ได้ถือโอกาสตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นแรง!! ดังกล่าว ขณะมาร่วมบันทึกเทปรายการ "EFM On TV GMM25" ซึ่งงานนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กันเลยทีเดียว...
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นก็คือเขาขับรถมาหาหนูที่บ้านตอนตี 2 ครึ่ง และก็จอดรถรอหนูถึงประมาณตี 3 จากนั้นพอหนูออกมาเจอเขาที่หน้าบ้าน เขาก็เสียงดังโวยวายมากจนหนูกลัวว่าชาวบ้านระแวกนั้นรวมถึงคุณแม่จะได้ยิน หนูก็เลยบอกให้เขาใจเย็นๆ และเข้าไปคุยกันในรถ ซึ่งระหว่างที่อยู่บนรถเขาก็ขับรถออกไปแต่มันจะเป็นการขับๆ จอดๆ นะเพราะเรามีปากเสียงกันเรื่อยๆ โดยเรื่องที่ทะเลาะก็จะเป็นเรื่องที่เราเลิกกันไปแล้วประมาณ 2 เดือน และเขาก็พยายามตามง้อตลอด แต่หนูไม่ได้จะกลับไปนะคะ ซึ่งวันนั้นพอเขามารู้ว่าหนูมีคนคุยใหม่แล้ว เขาก็เลยโมโหตบหน้าหนู 1 ครั้ง และก็จับคอหนูบีบ แต่จังหวะนั้นหนูก็เอามือยันหน้าผากเขาไว้นะ จากนั้นเขาก็ฟาดหนูอีกที ซึ่งหนูต้องบอกก่อนว่ารถที่เรานั่งไปเป็นรถ โตโยต้า บีบี ที่มีเกียร์อยู่ตรงพวงมาลัย มันก็เลยทำให้พื้นที่ด้านหน้าโล่งจนสามารถถึงตัวกันได้ เท่านั้นไม่พอจังหวะนั้นเป็นช่วงที่หนูกำลังเอาเท้ายันตัวเขาไว้ แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเขาเป็นคนไม่ชอบให้เล่นเท้า เขาก็จะตะโกนบอกหนูว่า "อย่าเอาเท้ามาเล่น" และเขาก็เอาเท้าของเขามาโดนบริเวณคอหนูค่ะ"
"อย่างที่บอกมันอยู่ในช่วงที่เรากำลังนั่งรถไปและก็ขับๆ จอดๆ แต่ก็มีจังหวะหนึ่งด้วยเหมือนกันที่หนูหักพวงมาลัย คือในหัวหนูคิดแค่ว่าพังคือพัง ตายคือตาย จนกระทั่งรถเราขับมาจอดที่รัชดาและเราก็ทะเลาะกันต่อเรื่อยๆ มือเขา ศอกเขา ก็จะมาโดนร่างกายหนูตลอดเป็นในลักษณะของการกระแทก"
"ถามว่าหนูขึ้นรถมากับเขาทำไม เอาตรงๆ ตอนแรกหนูไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เราคิดว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง บวกกับเขายึดโทรศัพท์มือถือหนูไปตั้งแต่แรกหนูก็เลยอยากที่จะได้โทรศัพท์คืน และพอรถขับมาจอดถึงบ้านเขา หนูก็ตั้งใจว่าหนูจะเอาโทรศัพท์คืนและก็กลับบ้าน แต่พอหนูเอ่ยปากพูดว่าอยากได้โทรศัพท์ปุ๊ปเขาก็ล็อคประตูและมีปากเสียงกับหนูต่อ มีการกระชาก มีการผลักอยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายหนูทนไม่ไหวก็เลยตัดสินใจดึงกรอบรูปที่อยู่แถวนั้นลงเพื่อให้เกิดเสียงดัง และทำให้คนที่บ้านเขาตื่น ซึ่งก็ปรากฏว่าแม่เขาตื่นจริงๆ และแม่เขาก็เห็นด้วยว่าหนูนั่งร้องไห้ หนูบอกแม่เขาว่าหนูโดนทำร้าย แม่เขายังว่าเขาอยู่เลย (น้ำตาคลอ) ตลอดระยะเวลาที่คบกันแม่เขาก็รู้ว่าเขามีอารมณ์รุนแรงและก็ทำร้ายร่างกายหนูค่ะ"
ก่อนหน้านี้เราเคยโดนทำร้ายร่างกายมาก่อนไหม ?
"ไม่ถึงกับโดนทำร้ายค่ะ คือโดยส่วนตัวแล้วหนูเป็นคนไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบ ถ้าผู้ชายแรงมาหนูก็จะแรงกลับ ถ้าผู้ชายสุภาพมาหนูก็สุภาพกลับ แต่ในเมื่อผู้ชายคนนี้แรงมาและยังมีท่าทีด่าทอหนู หนูก็เลยจำเป็นที่จะต้องด่ากลับ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุการณ์ปกติที่เราทะเลาะกันอยู่แล้ว มีกระชากบ้างเป็นประจำ"
แต่เหตุการณ์นี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่เราโดนทำร้ายร่างกาย ?
"ใช่ค่ะ เพราะถ้าเขาแค่กระชากหรือเหวี่ยงเหมือนที่ทะเลาะกันปกติหนูก็พอรับได้นะคะ แต่ครั้งนี้เขามาตบหน้าหนู เขาไม่มีสิทธิ์มาตบหน้าหนู หนูไม่ได้ทำอะไร"
เห็นเราบอกว่าเขามาส่งเราที่บ้านตอน 10 โมงเช้า ระหว่างที่รอเวลาช่วงนั้นเราทำอะไร ?
"เราก็นั่งเจรจากันค่ะ เพราะช่วงนั้นเราก็เริ่มคุยกันเคลียร์กันพูดกันดีแล้ว และพอถึงตอนเช้าหนูก็เลยบอกกับเขาว่าหนูอยากกลับบ้านให้เขาไปส่งที่บ้านหนูหน่อย แต่สักพักหนูก็เปลี่ยนใจบอกเขาว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูกลับเอง ซึ่งระหว่างที่หนูเดินออกไปหน้าซอยบ้านเขา เขาก็วิ่งตามมาและก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะขับไปส่งเอง แต่ระหว่างทางที่กลับเราก็อาจจะมีปากเสียงกันนิดหน่อย และหนูก็บอกกับเขาว่า "ฟ้าไม่ยอมนะ ฟ้าจะเอาเรื่อง เพราะฟ้าโดนทำร้าย" ซึ่งสิ่งที่เขาตอบกลับมาก็คือ "อยากทำอะไรทำเลย ถ้าไม่เห็นแก่เขา ก็เห็นแก่พ่อแม่เขาบ้าง" จากนั้นหนูก็เลยบอกเขาไปว่า "มีใครเห็นใจหนูบ้างกับสิ่งที่หนูโดนทำร้าย หนูไม่สงสารใครแล้วตอนนี้ บ้านเขาโกหกหนูทั้งบ้าน และเขาก็มีแฟนใหม่แล้ว ทำไมเขาถึงมาง้อหนู กว่าหนูจะลืมเขาได้ เขาดึงความรู้สึกหนูกลับไปทำไม หนูเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการแค่ความรักดีๆ และตลอดระยะเวลาที่เราคบกันเราก็ดีต่อกันมาตลอด อาจจะมีทะเลาะบ้างตามประสาชีวิตคู่ ถ้าหากเขาบอกว่าหนูไม่ดีจริง เขาจะมาง้อหนูถึงที่บ้านทำไม"
สาเหตุที่เลิกกันตอนนั้นเกิดจากอะไร ?
"สาเหตุก็คือหนูขอเขาไปเที่ยว หนูต้องเล่าก่อนว่าตลอดเวลาที่คบกันไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปกินข้าวเราก็ไปด้วยกันตลอด แต่บังเอิญวันนั้นเขามีถ่ายงาน เพื่อนหนูก็เลยชวนหนูไปเที่ยว ซึ่งหนูก็ขอเขานะหนูบอกเขาว่าหนูไปเที่ยว พอเที่ยวปุ๊ปเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันก็เมากันหมดหนูก็เลยต้องขับรถไปส่ง และก็นอนหลับอยู่กับเพื่อนที่คอนโดเลย บวกกับหนูไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะปิดเสียงเอาไว้ สุดท้ายพอหนูตื่นมาประมาณบ่ายโมงและได้คุยกับเขา เขาก็ดูโมโหมาก ทั้งกระชากหนู จิกหัวหนู ถามหนูว่าทำไมทำแบบนี้ ซึ่งหนูรู้สึกว่ามันรุนแรงเกินไปแล้ว หนูทนไม่ไหว จากนั้นเขาก็เลยบอกเลิก และเราก็เลิกกันค่ะ คือหนูต้องยืนยันเลยนะคะว่าตลอดระยะเวลาที่คบกันหนูไม่ใช่คนติดเที่ยว"
หลังจากเราโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเขาได้ติดต่อมาหาเราไหม ?
"ไม่มีค่ะ เพราะหนูได้พูดกับเขาไปตั้งแต่แรกแล้วว่าหนูไม่ยอมนะที่เขาทำร้ายร่างกายหนูขนาดนี้ และจุดประสงค์หนูมีแค่ข้อเดียวก็คือ หนูอยากออกมาเรียกร้องสิทธิของหนู ที่หนูโดนทำร้ายร่างกาย เขามาหาหนูที่บ้าน และเขาก็มาทำร้ายร่างกายหนู ซึ่งมันก็คือเหตุผลเดียวที่หนูต้องมานั่งตรงนี้เพราะหนูโดนทำร้ายร่างกาย"
จริงไหมที่เราด่าพ่อแม่เขา ?
"ไม่จริงค่ะ หนูไม่เคยด่าเสียๆ หายๆ ไม่เคยว่า ไม่เคยอะไรเลย แต่แค่ที่หนูบอกเขาเฉยๆ ว่า "หนูจะสงสารทำไม บ้านเธอโกหกเราทั้งบ้าน" ซึ่งตอนนั้นเขาก็บอกว่า "ทำไมพูดแบบนี้""
เห็นว่าวันนี้เขาออกมารับทราบข้อกล่าวหาและก็ปฏิเสธทุกอย่างด้วย เราทราบไหม ?
"หนูยังไม่ทราบแค่ แต่ทุกสิ่งที่หนูพูดคือความจริง เขาทำร้ายร่างกายหนูจริงๆ"
เขายังบอกอีกว่าวันจันทร์ที่จะถึงนี้เขาก็จะออกมาแถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ ?
"หนูไม่กังวลเลย เพราะหนูโดนทำร้ายจริงๆ หนูโดนตบหน้าจริงๆ"
ตอนนี้เหมือนว่าเขาเองก็กำลังเตรียมทนาย ทางเราเตรียมอะไรไว้บ้าง ?
"หนูก็เตรียมเหมือนกันค่ะ และก็อยากรู้ด้วยว่าเขามีหลักฐานอะไร หนูจะเตรียมรับเรื่องไว้ ถามว่าหนูกลัวผลกระทบอะไรไหม หนูไม่กลัวอะไรเลย เพราะที่หนูออกมาพูดวันนี้คือหนูโดนเขาทำร้ายจริงๆ หนูถูกกระทำจริงๆ ค่ะ และถ้าหากหนูไปกวนเขาอย่างที่เขาพูดจริงๆ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาตบหน้าหนู เขาไม่มีสิทธิ์เลย เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะใช้กำลังกับหนูสักครั้ง"
บาดแผลรอยช้ำที่เรานำภาพออกมาโชว์เกิดจาก ?
"เกิดจากการที่มือเขาฟาดมาโดนค่ะ เพราะเขาก็จะพูดอยู่ตลอดว่าทำแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้ทำไม"
ล่าสุดก็มีคนตั้งข้อสงสัยเหมือนกันว่าทำไมร่องรอยการบาดเจ็บมีน้อย เพราะว่าผู้ชายก็ดูตัวโต ?
"จุดประสงค์ของผู้ชายคนนี้คือเขาต้องการให้หนูกลับไปคืนดี เขาไม่ได้มีจุดประสงค์หรือเจตนาที่จะมากระทืบหนู เขาไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะลงไม้ลงมือให้หนูบอบช้ำ ให้หน้าหนูเสียโฉม และการทำของเขาก็คือมีการยั้ง เป็นเหมือนอารมณ์ชั่ววูบ แต่ว่าหนูเจ็บ"
เราได้ต่อสู้บ้างไหม ?
"หนูต่อสู่ป้องกันตัวเองค่ะ เพราะหนูเองก็ได้ใช้มือจิกเขา และก็ใช้เท้ายันเขา หนูยอมรับนะคะว่าหนูต่อสู้ แต่หนูก็แค่ป้องกันตัวเองเพราะหนูก็กลัวหนูตายเหมือนกัน"
เราเว้นระยะไปนานแค่ไหนถึงได้ตัดสินใจว่าจะต้องแจ้งความ ?
"สักพักหนึ่งค่ะ และก็ตัดสินใจออกไปแจ้งความช่วงมืดๆ เย็นๆ"
ก่อนที่จะแจ้งความเราได้ปรึกษาครอบครัวไหม ?
"ตอนแรกไม่กล้าบอกครอบครัวเลยค่ะ เพราะหนูไม่ได้มีคนที่มาอยู่ข้างหนู หนูไม่ได้มีผู้จักการส่วนตัว หนูอยู่ของหนูตัวคนเดียว แต่ทุกคนที่มากับหนูวันนี้คือครอบครัวทั้งนั้น และถึงแม้หนูจะไม่อยากให้ครอบครัวหนูต้องมารู้เรื่อง แต่สุดท้ายหนูก็ต้องบอกแม่และพี่สาวเพื่อให้พาไปแจ้งความ"
รู้สึกยังไงบ้างที่มีคนมองว่าเราเป็นคนเมคร่องรอยต่างๆ ขึ้นมาเอง ?
"เพื่ออะไรคะ หนูขอถามกลับว่าหนูจะทำตัวเองเพื่ออะไร ถ้าหากเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายหนู หนูจะออกมาโมโห ให้หนูต้องร้องไห้ ให้หนูเครียดแบบนี้เหรอ ให้หนูวุ่นวายแบบนี้เหรอ แต่การที่หนูเอาลงหนูแค่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ถึงผู้ชายคนนี้เขาเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคมแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรแบบนี้ เขาไม่สิทธิ์หลอกลวง ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายใครแบบนี้ และอินบ็อกที่มีเข้ามาให้กำลังใจหนู หนูขอบคุณมากนะตะ และก็มีอีกเหมือนกันสำหรับอินบ็อกจากที่ผู้หญิงที่เคยโดนเขากระทำ มีค่ะ"
มีอะไรอยากจะบอกเขาบ้างเพราะเขาก็เคยเป็นคนที่เรารัก แต่วันนี้กลับมาทำแบบนี้กับเรา ?
"ตลอดเวลาที่เราคบกัน หนูทำดีที่สุดแล้ว เขารู้ดีค่ะว่าหนูทำดีกับเขาแค่ไหน ระยะเวลาที่คบกันรักกันเขาก็ดีกับหนูในบางเรื่อง แต่พอมาถึงวันนี้แล้วมันไม่ไหวค่ะ"
เห็นว่าเราเองก็ไม่คิดจะยอมความและก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ?
"ค่ะ หนูมาถึงขนาดนี้แล้วหนูก็จะสู้ค่ะ เพราะหนูโดนกระทำจริงๆ"
เบื้องต้นได้มีการนัดไกล่เกลี่ยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือยัง ?
"ยังค่ะ เพราะตอนที่เขาไปมอบตัวทางตำรวจก็ได้โทรแจ้งมาเฉยๆ ว่าเขาได้เข้ามามอบตัวแล้ว เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องนัดอื่นๆ อีกเมื่อไหร่ตอนนี้ยังไม่มี แต่ว่าหนูมีนัดตรวจร่างกายในวันอังคารที่จะถึงนี้ค่ะ"
เรามีหลักฐานอะไรจะออกมายืนยันได้ไหมว่าสิ่งที่เราพูดคื เรื่องจริง ?
"เขาเข้ามาในบ้านหนูจริงมีหลักฐาน กล้องวงจรปิดทุกอย่างเห็นหน้าเขาเต็มๆ ว่าเขาขับรถเข้าไป และแลกบัตรประชาชนเข้าไปในบ้านหนู"
เห็นว่าเรามีเอกสารทางการแพทย์ด้วย ?
"ใช่ค่ะ มีใบรับรองแพทย์ว่าหนูโดนกระทำจริงๆ มีรอยฟกช้ำทางร่างกายจริงๆ ไม่มีรอยไหนเป็นมาตั้งแต่แรก หนูเจอเขาและมันก็เพิ่งเป็นค่ะ"
ถ้าหากเขาตัดสินใจติดต่อมาเพื่อเคลียร์เราจะโอเคไหม ?
"ยินดีเคลียร์ค่ะ แต่หนูขอแค่ให้เขาพูดความจริง"
เรารู้สึกยังไงบ้างที่คนมองว่าเราพยายามสร้างกระแส ?
"ไม่เลยค่ะ ถ้าหนูคิดจะเกาะและดังด้วยเรื่องโดนผู้ชายซ้อม มันเป็นเรื่องดีเหรอคะ หนูไปดังเรื่องอื่นไม่ดีกว่าเหรอคะ ดังเรื่องโดนผู้ชายซ้อมไม่เห็นน่าภูมิใจเลยค่ะ"
มีอะไรอยากจะบอกคนที่ฟังอยู่บ้าง ?
"การที่หนูออกมาพูดวันนี้หนูมีแค่จุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือการเรียกรองสิทธิที่หนูโดนทำร้ายร่างกาย อีกอย่างหนูไม่ใช่นางแบบ FHM นะคะ หนูไม่ได้มีสังกัด หนูมากับครอบครัวเท่านั้นค่ะ"
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ