หนุ่มดักฆ่าเพื่อนร่วมงานชอบฟ้องเจ้านาย แทงข้างหลังทะลุหัวใจ

หนุ่มแรงงานชาวพม่า ดักฆ่าเพื่อร่วมงานหลังสะสมความแค้นสาเหตุจากชอบฟ้องเจ้านาย ใช้มีดดาบแทงข้างหลังทะลุหัวใจดับคาที่ ส่วนคนร้ายหลบหนีอยู่ในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ก.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนงานก่อสร้างถูกทำร้ายเสียชีวิต ภายในแคมป์คนงาน ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านลัดดาแลนด์เก่า ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่ในห้องพักของแคมป์คนงาน จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ด้านหลังทะลุหัวใจ 1 แผล มีแผลแตกบริเวณที่คิ้ว
ทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมาคือ นายแดง อายุ 35 ปี นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่พบอาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 35 เซนติเมตร ตกอยู่ใกล้ตัวผู้ตาย คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายสายัณห์ ปุนหาวงค์ ซึ่งเป็นคนดูแลคนงานภายในแคมป์ก่อสร้าง ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนกับ รปภ.ที่เฝ้าแคมป์ได้พบเห็นนายหมื่น อายุ 17 ปี สัญชาติไทยใหญ่ ยืนถืออาวุธมีดอยู่บริเวณทางเข้าแคมป์ก่อสร้าง จึงได้เข้าไปสอบถาม ก็ไม่ยอมพูดอะไร ตนจึงได้ยึดอาวุธมีดดังกล่าวไว้ แต่นายหมื่น ยังคงยืนเหมือนรอใครอยู่
กระทั่งต่อมาได้มีนายแดง ผู้ตายเดินเข้ามาพอดี จากนั้นนายหมื่น ก็ได้ตรงเข้าไปทำร้ายทันที จึงเกิดการชกต่อยกัน ตนกับทาง รปภ. จึงได้รีบเข้าไปห้าม และแยกทั้งคู่ออกจากกัน อีกทั้งเห็นนายแดง มีเลือดไหลออกจากที่คิ้ว จากการชกต่อย จึงได้ให้กับไปอาบน้ำและทำแผลที่ห้อง ซึ่งหลังจากทั้งคู่แยกย้ายกันไปก็ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อีก
โดยสาเหตุนั้นช่วงก่อนหน้านี้นายหมื่น คิดว่าผู้ตายไปฟ้องนายจ้างว่า นายหมื่นไม่ค่อยทำงาน ซึ่งเรื่องการฟ้องนายจ้างนั้น ไม่มีใครทราบว่าจะจริงหรือไม่ กระทั่งในช่วงเช้าวันนี้ นายจ้างของทั้งคู่ได้มาที่แคมป์ และจะเรียกให้ไปทำงานก่อสร้างและปูกระเบื้อง แต่ก็มาพบศพดังกล่าว ส่วนนายหมื่น คู่กรณีที่ชกต่อยกันเมื่อคืน ก็ได้หายตัวไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายหมื่นอาจจะย้อนกลับไปและใช้อาวุธมีดแทงนายแดง ขณะนอนหลับเพราะฤทธิ์เหล้าภายในห้อง และนอนไม่รู้สึกตัวอยู่แล้ว หลังจากก่อเหตุเสร็จก็ได้ทิ้งอาวุธมีดและหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนหาตัวนายหมื่น ผู้ต้องสงสัยรายนี้มาทำการสอบสวนให้เร็วที่สุด หากพบว่าเป็นคนก่อเหตุก็จะได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณภาพจาก เชียงใหม่นิวส์