แม่ค้าสุดเจ็บใจ! เจอมิจฉาชีพหลอกทอนเงินไม่ครบ

แม่ค้าสุดเจ็บใจ! เจอมิจฉาชีพหลอกทอนเงินไม่ครบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ค้าในตลาดสด จ.พิษณุโลก เผยภาพจากกล้องวงจรปิดเตือนภัยพ่อค้าแม่ค้า หลังหลงเชื่อลูกค้าว่าซื้อของและทอนเงินไม่ครบ แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชัด เชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (10 ก.ค.)  ได้รับแจ้งข่าวเตือนภัยมิจฉาชีพจาก นางถุงเงิน อำรุง อายุ 47 ปี แม่ค้าขายผักและเครื่องเทศ ในตลาดสดพิษณุโลกร่วมใจ 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. มีมิจฉาชีพที่เป็นผู้หญิงเข้ามาซื้อของที่ร้าน แล้ว กล้องวงจรในร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ลูกค้าอ้างว่าตนเองทอนเงินไม่ครบเอาไว้ทั้งหมด

ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 09.11 น. พบผู้หญิงผมยาวอายุประมาณ 50 ปี สวมใส่เสื้อสีฟ้าลายตารางสีน้ำเงิน สวมกางเกงสามส่วนสีเหลือง สวมใส่แว่นตาเข้ามาซื้อกระเทียมและจ่ายเงินด้วยธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ให้ทันที หลังจากนั้นได้ชักจูงพูดคุยกับลูกชายของนางถุงเงิน ขอให้ตักกระเทียมถุงใหม่ และได้ควักธนบัตร ฉบับละ 50 บาท ออกมาจากในกระเป๋าเสื้อมาใส่มือข้างขวาไว้ และซุกไว้บริเวณด้านข้างตะกร้าเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เมื่อรับเงินทอง ได้รีบเอาธนบัตรฉบับละ 50 บาท ซุกไว้ใต้เงินทอนซึ่งเป็นเศษทอน 50 บาททันที

และอีกจังหวะที่ลูกชายนางถุงเงินทอนเงินให้อีก 900 บาท ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ชักเอาธนบัตร ฉบับละ 500 บาท ยัดไว้ใต้เสื้อในทันทีที่เรียกว่า ทอนเงินให้ไม่ครบ ซึ่งในช่วงแรก ลูกชายและนางถุงเงิน ได้ยืนยันว่าทอนเงินครบอย่างแน่นอน เนื่องจากนางถุงเงินได้ดึงเงินที่ตนเองทำแนบละ 1,000 บาท เอาไว้ ตามปกติเช่นนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

นางถุงเงิน บอกว่า ตนเองขายของมาตั้งแต่อายุ 13 ปี ปกติของการค้าขายจะระมัดระวังเรื่องการทอนเงินอยู่แล้ว โดยทุกวันจะ ทำเงินเป็นแนบๆ ละ 1 พันบาท จะประกอบไปด้วย ธนบัตรฉบับละ 500 บาท 1 ฉบับ หรือ ธนบัตรฉบับละ 100 บาท ทั้งหมด ซึ่งหลังจากโต้เถียงกันอยู่พักหนึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวพยายามแสดงความบริสุทธิ์ โดยได้พยายามแสดงให้เห็นว่าตนเองไม่มีเงินในกระเป๋าเสื้อแต่อย่างใด จนในที่สุด นางถุงเงินได้ ให้เงินเพิ่มไปอีก 500 บาท และเมื่อผู้หญิงคนดังกล่าวเดินจากไปแล้ว นางถุงเงินจึงได้เปิดกล้องวงจรปิดจึงพบว่า ตนเองตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเสียแล้ว

จึงอยากให้เรื่องราวของตนเองเป็นอุทาหรณ์แจ้งเตือนภัยให้พ่อค้าแม่ค้าตามท้องตลาด ให้เพิ่มความระมัดระวังและติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้เพื่อเป็นพยาน และสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เพราะหลังจากนำเอาเรื่องราวนี้ไปบอกต่อก็ทราบว่า มีผู้เคยถูกหลอกทอนเงินในลักษณะเดียวกันนี้จำนวนมาก ส่วนนางถุงเงิน เสียเงินให้กับมิจฉาชีพไป 500 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook