เผยโฉม "มือปืน" สังหารหมู่ที่ออร์แลนโด ตายพุ่ง 50 ศพ

เผยโฉม "มือปืน" สังหารหมู่ที่ออร์แลนโด ตายพุ่ง 50 ศพ

เผยโฉม "มือปืน" สังหารหมู่ที่ออร์แลนโด ตายพุ่ง 50 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงบาร์เกย์ เมืองออร์แลนโด พุ่งทะลุ 50 ศพ ทางการชี้อาจเป็นการก่อการร้าย นับเป็นเหตุสังหารหมู่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา

สำนักข่าวต่างประเทศยังคงเกาะติดรายงานเหตุคนร้ายกราดยิงและจับตัวประกัน ภายในสถานบันเทิงไนท์คลับแห่งหนึ่ง ย่านใจกลางเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 12 มิถุนายน ตามเวลาในท้องถิ่น มือปืนเสียชีวิตในที่ก่อเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 50 คน ทางการสหรัฐฯ มองว่าเหตุครั้งนี้เข้าข่ายเป็นการก่อการ้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: มือปืนกราดยิงกลางไนท์คลับ เจ็บตายอื้อ ซ้ำรอยที่ออร์แลนโด

ความคืบหน้าล่าสุดของเหตุกราดยิงที่ Pulse Nightclub สถานบันเทิงชื่อดังของกลุ่มรักร่วมเพศในเมืองออร์แลนโด ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว พุ่งสูงขึ้นเป็น 50 คนแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็มีมากกว่า 50 คนเช่นเดียวกัน ตามรายงานระบุว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ไม่ต่ำกว่า 200 คน

สำหรับมือปืนที่ก่อเหตุครั้งนี้ ทราบชื่อแล้วคือ นายโอมาร์ มาธีน อายุ 29 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ หลังจากวิกฤตการณ์จับตัวประกันยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง คนร้ายใช้อาวุธปืนไรเฟิลและปืนพกยิงต่อสู้กับตำรวจอย่างไม่ลดละความพยายาม จนวินาทีสุดท้าย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองออร์แลนโด ได้ออกเปิดเผยหลังจากคลี่คลายเหตุการณ์ได้แล้ว ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นยังแน่ชัดว่ามาจากสาเหตุและแรงจูงใจใด แต่เข้าข่ายอาจจะเป็นการก่อการร้าย เนื่องจาก นายโอมาร์ ผู้ก่อเหตุนั้น มีประวัติเป็นที่รู้จักและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมมาหลายปี ก่อนจะก่อเหตุสังหารหมู่เลวร้ายครั้งนี้

นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า เป็นการกระทำที่แสดงถึงความเกลียดชัง แม้ยังอยู่ระหว่างการเสาะหาแรงจูงใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นชัดว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย 

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานอีกว่า เหตุกราดยิงและจับตัวประกันครั้งนี้ นับเป็นเหตุสังหารหมู่ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่เหตุก่อการร้ายในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบว่า คนร้ายวางแผนก่อเหตุเพียงลำพัง หรือมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง

Source: CNN / BBC / @OrlandoPolice

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook