แท็กซี่หลอกเชิดเงินแม่ลูกกัมพูชา 6 หมื่น ซิ่งหนีพร้อมชุดวิวาห์

แท็กซี่หลอกเชิดเงินแม่ลูกกัมพูชา 6 หมื่น ซิ่งหนีพร้อมชุดวิวาห์

แท็กซี่หลอกเชิดเงินแม่ลูกกัมพูชา 6 หมื่น ซิ่งหนีพร้อมชุดวิวาห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สองแม่ลูกชาวกัมพูชาเหมาแท็กซี่ไปต่างจังหวัด ถูกหลอกเชิดเงิน 60,000 บาท หายไปพร้อมชุดวิวาห์

(10 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ น.ส.ปิยธิดา ยั่งยืน อายุ 39 ปี พลเมืองดี ได้พานางเซียบ สวน อายุ 48 ปี กับ น.ส.เดน ทาคอมมาเดียล อายุ 20 ปี บุตรสาว ชาวกัมพูชา เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมเล่าว่า สองแม่ลูกนั้นทำงานอยู่ในโรงงานย้อมสีผ้าย่านประชานิเวศน์ในเขตเมืองนนทบุรีโดยทำงานมากว่า 4 ปี จนสามารถเก็บหอมรอมริบจนมีเงินกว่า 60,000 บาท และลูกสาวจะต้องนำเงินดังกล่าวกลับไปใช้ในงานแต่งงานที่บ้านในประเทศกัมพูชา

สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา สองแม่ลูกได้เรียกรถแท็กซี่ตกลงกันในราคาเหมา 5,000 บาท เพื่อไปยังจังหวัดจันทบุรี เป็นแท็กซี่สีเหลือง ทะเบียน ทส-7570 กทม. เรียกจากบริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาพงษ์เพชร จ.นนทบุรี คนขับเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ได้ตกลงราคากันที่ 5,000 บาท โดยคนขับขอเก็บเงินล่วงหน้าก่อน 3,000 บาท

เมื่อนั่งรถมาถึงย่านกิ่งแก้ว ซ.40 เขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ คนขับได้บอกว่าขอเติมแก๊สก่อน พร้อมทั้งขอเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท ก่อนจะออกอุบายให้สองแม่ลูกกัมพูชาลงไปจากรถ จากนั้นอาศัยจังหวะนั้นขับรถเชิดเงินสด พร้อมเสื้อผ้าชุดแต่งงานของนางเดนลูกสาว และข้าวของอีกจำนวนหนึ่งขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากปั๊มแก๊สแล้วจึงพบว่าโชเฟอร์รายนี้คือ นายจิรเดช จึงได้โทรศัพท์ไปที่มือถือของนายจิรเดช มีเสียงผู้หญิงรับสายบอกว่าเป็นภรรยา ส่วนกระเป๋า 2 ใบ สามีนำไปฝากไว้ที่ สน.ลาดกระบัง แล้ว ตนเองจึงพาผู้เสียหายไปที่ สน.ลาดกระบังเพื่อขอรับกระเป๋าคืน แต่ปรากฎว่าเสื้อผ้าชุดแต่งงานในกระเป๋าจำนวน 3 ชุด พร้อมเงินสดจำนวน 60,000 บาท ที่เก็บไว้เพื่อกลับไปแต่งงานที่บ้านหายไปโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาไป จึงได้ไปแจ้งความกับร้อยเวร สภ.บางแก้วท้องที่เกิดเหตุุแต่คดีก็ไม่คืบ จึงอยากขอความเป็นธรรมสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงในการติดตามตัวคนที่เอาเงินสองแม่ลูก ชาวกัมพูชาคืนกลับมาด้วยเพราะเป็นเงินที่สู้อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมานานหลายปีระหว่างมาทำงานที่กรุงเทพฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook