ผู้เชี่ยวชาญเตือนระวัง "หมึกบลูริง" กินแล้วตาย ไม่มียาแก้

ผู้เชี่ยวชาญเตือนระวัง "หมึกบลูริง" กินแล้วตาย ไม่มียาแก้

ผู้เชี่ยวชาญเตือนระวัง "หมึกบลูริง" กินแล้วตาย ไม่มียาแก้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(23 ก.พ.) จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพปลาหมึกเล็กๆ ชนิดหนึ่ง วางปะปนอยู่บริเวณโซนอาหารทะเลและของสด ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก่อนจะนำเอามาแชร์ให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ แล้วพบว่าเป็นหมึกที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ชื่อว่าหมึกสาบวงฟ้าหรือ "บลูริง" 

ล่าสุด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า...

"มีคนพบหมึกสายวงฟ้าปะปนกับหมึกสายอื่นๆ แล้วขายอยู่ในตลาด หมึกชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมาก แนะนำดังนี้ครับ ‪#‎อย่ากินเด็ดขาด‬
1. หมึกสายวงฟ้าพบในอ่าวไทย มีโอกาสที่เรือประมงจับได้ เช่น อวนลาก
2. พิษหมึกชนิดนี้อยู่ในน้ำลายและตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ทั่วร่าง เมื่อหมึกกัดพิษจะเข้าบาดแผล รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หรือเมื่อกินอาจอันตราย เพราะฉะนั้น อย่าริลองกินเด็ดขาด
พิษพวกนี้เป็น TTX (tetrodotoxin) เหมือนปักเป้า ไม่สลายเมื่อโดนความร้อนครับ
3. หมึกชนิดนี้ขนาดเล็ก น่าจะมีรสเหมือนหมึกสายทั่วไป ไม่ใช่อาหารฮ่องเต้ ไม่มีเมนูชาติไหนในโลกนำไปกินนะจ๊ะ
4. เนื่องจากตัวเล็ก หากจะติดมากับหมึกอื่น จะมาพร้อมกับหมึกสายอื่น ไม่มีใครเอาไปแล่เนื้อทำเย็นโตโฟหรือทำอาหารแบบหมึกแล่ชนิดอื่น จึงไม่ต้องกลัวการกินเนื้อหมึกทั่วไป เช่น สุกี้ ฯลฯ (เขาใช้หมึกหอม หมึกกล้วย หมึกกระดอง ฯลฯ)
5. ไม่ต้องกลัวหมึกสายที่นำมาทำซูชิ นั่นเป็นหมึกสายขนาดใหญ่ เอาหนวดมาหั่น ไม่ใช่เอาหมึกสายตัวเล็กมาทำ
6. แม้หมึกสายวงฟ้าจะพบในไทย แต่ยังมีปริมาณไม่มากนัก โอกาสเสี่ยงมีน้อย แม้ตายแล้วยังพอมองเห็นลวดลายครับ (สังเกตภาพนะจ๊ะ)
ระวังกันไว้นิดนะครับ ส่วนอาการถ้ากินเข้าไป ผมไม่ทราบเหมือนกันเพราะค้นเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่อาจคล้ายปักเป้า ปากชา หน้าชา หายใจไม่ค่อยออก ทางแก้คือช่วยหายใจฉุกเฉินและส่งแพทย์โดยด่วน พิษ TTX ไม่มียาแก้พิษครับ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook